อธิบดีกรมราชทัณฑ์เผยยอดผู้ต้องขังติดเชื้อใหม่ 140 ราย ขณะที่สองเรือนจำ จ.สงขลา ยังพบผู้ต้องขังติดเชื้อเกือบ 100 ราย เร่งตรวจหาเชื้อคัดแยกรักษา จันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 22.01 น.
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่กรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานว่า ข้อมูลของวันที่ 20 มิ.ย. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 140 ราย แยกเป็นการตรวจพบเชื้อจากผู้ต้องขังในแดนจากเรือนจำสีแดง 134 ราย และในห้องแยกกักโรค 6 รายจากเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี 3 ราย และเรือนจำอำเภอธัญบุรี เรือนจำกลางสมุทรปราการ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแห่งละ 1 ราย รักษาหายวันนี้ 466 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,976 รายในเรือนจำที่พบการแพร่ระบาด 13 แห่ง และมีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีขาว ไม่พบการระบาดจำนวน 127 แห่ง ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายสะสม 29,166 ราย หรือ 82% ของจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน มีเรือนจำ/ทัณฑสถานหลายแห่งสามารถจำกัดแดนที่พบผู้ติดเชื้อออกจากแดนปลอดเชื้อได้อย่างชัดเจน โดยมีเรือนจำที่พ้นระยะสีแดง รอการปรับสถานะ 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งคาดว่าเรือนจำส่วนใหญ่จะสามารถลดสถานะจากเรือนจำสีแดงได้ภายในเดือนก.ค.นี้
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.สงขลา วันนี้ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางสงขลา 77 ราย และทัณฑสถานหญิงสงขลา 24 ราย ซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อในบางแดน และได้แยกกลุ่มเสี่ยงออกจากผู้ต้องขังรายอื่นเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการเร่งตรวจหาเชื้อเพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ ได้เร่งดำเนินการเพื่อสนับสนุน ทั้งยารักษาและบรรเทาอาการ เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษา รวมถึงการจัดทีมแพทย์และพยาบาลจากส่วนกลางและเรือนจำ/ทัณฑสถานในพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้าดูแลและช่วยเหลือในพื้นที่ให้สถานการณ์อยู่ในการควบคุมโดยเร็วที่สุด
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้ผู้ต้องขังชายจากเรือนจำกลางสงขลา และผู้ต้องขังเข้าใหม่จากเรือนจำจังหวัดสงขลาจะถูกส่งตัวเข้าคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลาซึ่งยังเป็นพื้นที่ปลอดเชื้ออยู่ ส่วนผู้ต้องขังหญิงจะนำส่งที่ทัณฑสถานหญิงสงขลาเช่นเคย โดยจัดพื้นที่ส่วนควบคุมใหม่แยกประตูเข้า-ออกจากทัณฑสถานเดิมอย่างชัดเจน เพื่อเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อในการรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายต่อจากนี้จนกว่าสถานการณ์จะปกติ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้มอบหมายให้ศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ (CARE : Center for Assistance to Reintegration and Employment) หรือศูนย์ CARE ในทุกเรือนจำ/ทัณฑสถาน ทำหน้าที่แจ้งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงเป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ญาติที่ทำการสอบถามเข้ามา ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ โทรศัพท์ ไลน์ หรือ เฟซบุ๊กของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ซึ่งที่ผ่านมา ได้ดำเนินการตอบข้อสงสัยและให้ข้อมูลแก่ญาติผู้ต้องขังไปแล้ว 61,890 ราย.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
- เห็นด้วย
0%
- ไม่เห็นด้วย
0%