‘ส.ส.ยศวัฒน์’ ตัดพ้อ เมืองกาญจน์ กำลังจะกลายเป็นหลุมฝังศพ คลัสเตอร์แรงงานแพร่เชื้อโควิด ซัดเคยเตือนแล้ว แต่รัฐบาลเงียบกริบ ไร้วัคซีนให้ชาวบ้านป้องกันตัว
เมื่อวันนี้ 31 กรกฎาคม นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้ว่า การแพร่ระบาดตอนนี้มาจากแรงงานชาวเมียนมา อย่างเช่น โรงงานค้าไก่ที่กำลังจะเป็นคลัสเตอร์แห่งใหม่ในอำเภอท่ามะกา ก็มีแรงงานเมียนมาติดเชื้อเป็นจำนวนมาก อย่างที่ตนเคยเรียกร้องไปเมื่อครั้งก่อนว่า จ.กาญจนบุรี อยู่ในกลุ่มที่ 2 ที่ระบุว่า เป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงอยากให้ประชาชนในจังหวัดได้รับวัคซีนอย่างเร่งด่วน เพราะถือว่ามีความเสี่ยงอย่างสูง ไม่ต่างจากพื้นที่ กทม.หรือจังหวัดสีแดงเข้มเลย
“ตอนที่ผมออกมาเรียกร้องให้มีการจัดลำดับความเร่งด่วนของพื้นที่ในการฉีดวัคซีน เพราะกาญจนบุรีมีพื้นที่ติดกับชายแดนเมียนมา อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็พบติดเชื้อจากกลุ่มแรงงานข้ามชาติในโรงงานผลไม้กระป๋อง อ.ท่ามะกา 1,031 คน และก็ระบาดมาที่ประชาชนคนไทยในพื้นที่อีกประมาณ 500 คน ทั้งอำเภอเกือบ 2 พันคนแล้ว จนกลายเป็นผลกระทบในวงกว้าง สิ่งที่ผมออกมาพูด ไม่ใช่เพราะต้องการหาเสียงในเวลานี้ แต่ต้องการสะท้อนให้ผู้บริหาร ศคบ.เห็นว่า จ.กาญจนบุรี กำลังจะกลายเป็นพื้นที่สีแดงเข้มในไม่ช้า หากยังไม่มีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้
ส.ส.ยศวัฒน์กล่าวต่อว่า “วันนี้ได้มีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้ล็อกดาวน์ และเคอร์ฟิว 5 อำเภอติดชายแดนเมียนมา เพราะสถานการณ์ในเมียนมาตอนนี้กำลังรุนแรงมาก มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้คนของเขาพยายามหลบหนีมาที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จำนวน 5 อำเภอ 11 ตำบล 31 หมู่บ้าน นี่คือภาพสะท้อนว่า เมืองกาญจน์ของเรากำลังเผชิญกับวิกฤต ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเมืองหลวงอย่าง กทม.เลย” และว่า “ขณะที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องพยายามดิ้นรนเดินทางเข้าไปฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะพวกเขากลัวตาย”
“วันนั้นตอนที่ผมพูดว่าใครจะรับผิดชอบชีวิตของคนที่นี่ ในเมื่อพวกเขาอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ที่จะได้รับเชื้อจากคนเมียนมา แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ จนถึงขณะนี้วัคซีนที่คนกาญจนบุรี จะได้รับเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากประเทศเพื่อนบ้าน ก็กลับเงียบหาย ผมขอเรียกร้องเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เมืองกาญจน์จะกลายเป็นหลุมฝังศพ” นายยศวัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ตนอยากจะฝากไปถึงรัฐบาลให้ทราบคือ ตอนนี้ สาธารณสุขจังหวัด รพ.จังหวัดกาญจนบุรี ขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ รวมถึงรถรับส่งผู้ป่วยอย่างมาก ซึ่งตนได้รวมรวมกลุ่มเพื่อน ส.ส.กุ๊ก เพื่อช่วยพี่น้องชาวกาญจนบุรี โดยร่วมกับชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 ทำการดัดแปลงรถรับส่งผู้ป่วยที่มีความพร้อมเหมือนรถโรงพยาบาลทั่วไปซึ่งจะรับส่งผู้ป่วยในระยะเริ่มต้น ถึงขั้นรุนแรง ขึ้นเพื่อรับส่งผู้ป่วยโควิดที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลสนามของจังหวัดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“สุดท้ายผมขอเรียกร้องไปยังผู้บริหาร ศคบ.ให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในสถานการณ์ที่ จ.กาญจนบุรี กำลังต้องเผชิญกับวิกฤตอย่างหนัก พร้อมเร่งจัดสรรวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี ก่อนที่เมืองกาญจน์จะกลายเป็นหลุมฝังศพในไม่ช้า” นายยศวัฒน์กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่