เรื่องราวคนแพร่น้ำใจงามรายนี้เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 7 พ.ย.64 เวลา 18.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนป่วยหมดสติภายในบ้าน แต่ล็อคประตูบ้านไว้ ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ บ้านอยู่ซอยร่มเย็น เลยข้าวซอยเจ้เล็ก ต.ในเวียง ไปเล็กน้อย ขอให้ไปช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลด้วย หลังรับแจ้งจึงประสานสายตรวจรถ จยย.สภ.เมืองแพร่ และ หน่วยกู้ภัยแพร่ นำโดย นายพิษณุ ดวงตาดำ หัวหน้าชุดปฏิบัติการณ์พร้อมทีมงาน 5 นาย ออกช่วยเหลือผู้ป่วย
เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุเลขที่ 116 ถ.น้ำคือ ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ พบเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในบ้านพบ จ.ส.อ.สรณะ ดีอินทร์ อดีตทหารเกษียณเจ้าของบ้านนั่งพิงเก้าอี้ ถอดเสื้อ ลักษณะสะลึมสะลือ ไม่ได้สติ พูดจาไม่รู้เรื่อง โดยประตูบ้านล็อคไว้ ไม่สามารถเปิดเข้าไปให้การช่วยเหลือได้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจสายตรวจ ได้ช่วยกันพังประตูเข้าไป จากนั้นได้ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.แพร่ เพื่อทำการรักษาตัว
จากการสให้การของางดรุณี วุฒิเวช อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 132/1 ถ.น้ำคือ ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ให้การว่า บ้านตนเองอยู่ติดกับบ้าน จ.ส.อ.สรณะฯ ที่ผ่านมาก็จะหาซื้อกับข้าวกับปลามาแบ่งกันลักษณะฉันเพื่อน ตอนเย็นวันนี้ ขณะที่ตนเองและสามี นั่งเล่นอยู่ระเบียงบ้าน ได้ยินเสียงเหมือนคนตะโกนขอความช่วยเหลือ ตนเองและสามี จึงได้ออกมาดูพบว่า เป็น จ.ส.อ.สรณะฯ ตะโกนขอความช่วยเหลือจากนั้นเตนเองและสามีจึงได้วิ่งมาบ้าน จ.ส.อ.สรณะฯ พบว่าประตูหน้าบ้านล็อค จึงปีนรั้วบ้านเข้าไปหา และยังพบว่าประตูหน้าบ้านล็อคอีก เข้าไปช่วยเหลือไม่ได้ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
สำหรับ จ.ส.อ.สรณะฯ อยู่บ้านคนเดียว เป็นอดีตทหาร ชอบเสียงเพลง เป็นนักดนตรี และมีอารมณ์ศิลปิน ทุกเช้าจะได้ยินเล่นดนตรี คนเดียวในบ้าน มีโรคประจำตัวเคยวูบแล้วหนึ่งครั้งแต่รักษาตัวจนหาย มีญาติอยู่ ต.ทุ่งโฮ้ง แต่ชอบอยู่คนเดียว ที่ผ่านมาก็ จะทักทายกัน และฝากซื้อข้าวปลาอาหารมาให้กันตลอด จนวันนี้มาพบว่า โรคประจำตัวกำเริบ เดชะบุญที่ยังมีสติตะโกนขอความช่วยเหลือก่อน หากไม่มีใครได้ยินแล้วมาช่วยทันอาการอาจจะหนักมากกว่านี้ก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวที่นางดรุณีและสามีเพื่อนบ้านได้มาช่วยเหลือเป็นสิ่งดีงาม ที่ทำให้เห็นว่า ความมีน้ำใจ ใส่ใจต่อเพื่อนบ้าน ยังมีอยู่ในสังคม ซึ่งสมกับคำขวัญว่า “คนแพร่นี้ใจงาม” จริงๆ