เผยแพร่:
ปรับปรุง:
นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ และคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลการดำเนินงานป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังคงตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ จ.ประจวบฯ มาเป็นเวลา 38 วัน จากการระบาดระลอกใหม่ ขณะที่ทางจังหวัดยังคงเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั้งการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของคนต่างด้าวตามแนวตะเข็บชายแดน การตั้งจุดตรวจจุดสกัดในตำบลชายแดน 26 จุด และการตรวจเชิงรุกค้นหาคนต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยอยู่ในประเทศ และการตรวจคัดกรองคนไทยที่เดินทางเข้า-ออกในพื้นที่จังหวัด
ในที่ประชุมมีการพิจารณการผ่อนผันการใช้ช่องทางด่านสิงขร เฉพาะเพื่อการนำเข้าส่งออกสินค้า โดยเห็นว่าเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกสินค้าไทย-เมียนมา และขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าชายแดน จึงมีมติผ่อนผันให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าส่งออกสินค้าประเภทแห้งและแช่แข็งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. เริ่มวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องจัดทำบันทึกข้อมูลการขนส่งตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และต้องแจ้งการนำเข้าส่งออกสินค้าให้จังหวัดทราบล่วงหน้า 1 วัน และในระหว่างนี้หน่วยงานความมั่นคงจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการรองรับการเปิดด่าน รวมทั้งจะมีการประสานกับฝ่ายความมั่นคงของประเทศเมียนมา นอกจากนี้ จังหวัดจะมีการประชุมผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกสินค้าทุกรายเพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามมาตรของภาครัฐและเน้นย้ำขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จะลงนามในคำสั่งผ่อนผันให้มีการเปิดช่องทางด่านสิงขรเฉพาะการขนส่งสินค้าต่อไป