ผู้ปกครองร้องทุกข์ผ่านทีมสนามข่าว 7 สี ว่าเงินที่ลูกอุตส่าห์เก็บสะสมเข้าบัญชีออมทรัพย์ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดแพร่ ถูกครูยักยอกไปกว่า 400,000 บาท ทำให้ถอนเงินไม่ได้ เด็กนักเรียนหลายคนที่ใกล้จะจบการศึกษา และต้องใช้เงินเพื่อไปเรียนโรงเรียนใหม่ ได้รับความเดือดร้อน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ เรื่องนี้แดงขึ้นหลังจากที่ผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่เข้ามารับตำแหน่ง แทนผู้อำนวยการคนเก่าที่เกษียณอายุราชการ เมื่อตรวจสอบบัญชีเงินฝากที่ทางโรงเรียนเปิดไว้กับธนาคาร เพื่อฝากเงินกองทุนออมทรัพย์ของนักเรียน จำนวน 142 คน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมต้น ที่เข้าร่วมโครงการ นักเรียนบางรายมียอดเงินฝาก 30,000 บาท ปรากฏว่าเงินในบัญชีหายไป เหลือยอดตัวเลขเงินฝากไม่ตรงกับที่ระบุในสมุดของนักเรียนแต่ละคน
เมื่อตรวจสอบทราบว่ามี ครูจำนวน 3 คน ซึ่งทำหน้าที่ดูแลกองทุนฯ แอบยักยอกเงินไปใช้ส่วนตัว แต่พอเรื่องถึงหูครูในโรงเรียน ทำให้ครู 2 คน ที่ยักยอกเงินไป นำเงินมาคืนแล้ว ยังเหลือครูอีกหนึ่งคน เป็นครูผู้หญิง ยังไม่คืนเงิน จำนวน 429,367 บาท ทางโรงเรียนต้องเรียกตัวครูคนนี้มาไกล่เกลี่ย โดยให้ทำหนังสือสัญญากู้เงินไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ครูคนนี้จะย้ายไปสอนที่โรงเรียนอื่นเมื่อปี 2562 และยังคงบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเรื่อยมา
จนช่วงปลายปี 2563 ที่ผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่เข้ามารับตำแหน่ง ได้ไปตามทวงหนี้ก้อนนี้คืนจากครูคนนี้ ซึ่งนัดว่าจะโอนจ่ายเงินให้วันนั้นวันนี้ ที่สุดได้จ่ายมาเป็นเช็ค พอนำไปขึ้นเงินปรากฏเช็คเด้ง โรงเรียนจึงต้องเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.วังชิ้น เพื่อดำเนินคดีครูคนนี้กรณีจ่ายเช็คเด้ง และฐานยักยอกทรัพย์
หลังทราบว่าทางโรงเรียนไม่ยอมอ่อนข้อให้แล้ว ครูคนนี้ก็ร้อนตัว รีบติดต่อตกลงว่าจะนำเงินจำนวน 300,000 บาท มาคืนให้ แต่สุดท้ายเหมือนเดิม ทางผู้อำนวยการโรงเรียนจึงต้องเชิญผู้ปกครองมาประชุมเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น
ตัวแทนผู้ปกครอง เล่าว่า เริ่มรู้ระแคะระคายเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ตอนนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนคนเก่า ยืนยันมาตลอดว่าสามารถบริหารจัดการได้ ไม่ต้องเป็นห่วง แต่มาวันนี้พอรู้ว่าเงินที่ลูกอดออมค่าขนมฝากเข้ากองทุนฯของโรงเรียน แต่กลับถูกครูที่ลูกไว้ใจแอบยักยอกไป ก็รู้เสียใจ วิงวอนขอให้ครูคนดังกล่าวรีบนำเงินมาคืน เพราะนักเรียนบางคนที่ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย ต้องการเบิกเงินไปเป็นค่าอุปกรณ์การเรียน และบางคนที่กำลังจะจบการศึกษา และต้องย้ายโรงเรียนใหม่ ก็ต้องใช้เงินเป็นทุนการศึกษาต่อ
ล่าสุด ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้หน่วยงานต้นสังกัดครูคนนี้ได้รับทราบเแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป