สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ชี้แจงกรณีที่มีสถาบันการศึกษาส่งหนังสือภายในแจ้งเตือนนักศึกษาชาวต่างชาติว่า หากเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทยจะถูกเพิกถอนวีซ่าในทันที โดย สตม. และ กต. ยืนยันว่าไม่มีนโยบายเพิกถอนวีซ่าของชาวต่างชาติที่เข้าร่วมกิจกรรมประท้วงในไทย
คำชี้แจงของทั้งสองหน่วยงานมีขึ้นหลังจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียหรือเอไอทีได้ส่งอีเมลเป็นการภายในถึงนักศึกษาและบุคลากรของสถาบันเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่าสถาบันฯ ได้รับแจ้งจาก สตม. ว่า สตม. จะพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตให้พำนักในราชอาณาจักร หรือวีซ่า (แบบ ED, O และ F) โดยทันทีหากพบว่าบุคคลนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ สถานทูตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม และบุคคลนั้นจะถูกขึ้นบัญชีดำจาก สตม. ด้วย
เอไอทีระบุว่า คำเตือนนี้ถูกส่งถึงสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษาและบุคลากรชาวต่างชาติอยู่
ข้อความในอีเมลดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่โดยโดยนายริชาร์ด แบร์โรว์ บล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวชาวอังกฤษผ่านทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ซึ่งมีข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า “Immigration Office will immediately revoke (cancel) without consideration the visa (“ED”, “O”, and “F”) for people who are involved in any protest in Thailand. The person will also be blacklisted by Thai immigration. This covers in Bangkok, United Nations, Embassies, for any purpose. This message is effective immediately.”
บีบีซีไทยติดต่อขอคำชี้แจงจากผู้บริหารเอไอที แต่ได้รับคำตอบว่าไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ โดยสถาบันฯ ชี้แจงเพียงว่า “เนื่องจากความเป็นห่วงนักศึกษา จึงเกิดความเร่งรีบในการสื่อสารข้อมูลที่ได้รับมา” และย้ำว่า “จุดยืนของเอไอทีคือสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกอย่างสงบ”
เว็บไซต์ของเอไอทีให้ข้อมูลว่าขณะนี้สถาบันฯ มีนักศึกษากว่า 1,600 คน จากกว่า 40 ประเทศ
ยืนยันว่าไม่มีเอกสารแจ้งเรื่องเพิกถอนวีซ่า
พ.ต.อ. ภัคพงษ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม. และรองโฆษก สตม. เปิดเผยกับบีบีซีไทยวันนี้ (10 มี.ค.) ว่า สตม. ไม่มีการส่งเอกสารดังกล่าวไปยังสถาบันการศึกษานี้เลย ส่วนอีเมลที่ปรากฏ เป็นข้อความที่จัดทำขึ้นเป็นหนังสือเวียนเพื่อแจ้งนักศึกษาโดยสถาบันเอง
ทั้งนี้ ทาง สตม.ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตามที่มีข่าวปรากฏว่า สตม. จะเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรของชาวต่างชาติ หากพบว่า เข้าไปมีส่วนร่วมกับการประท้วงนั้น “ขอยืนยันว่าไม่มีเอกสารแจ้งเวียนการเพิกถอนดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นการสื่อสารหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อน”
สตม. ระบุอีกว่า การแสดงออกเป็นเสรีภาพที่กฎหมายรับรองและคุ้มครองไว้ แต่เนื่องจากปัจจุบันได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อป้องกันและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในบางจังหวัด จึงได้มีการประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ห้ามการชุมนุมหรือจังหวัดที่ประกาศห้ามการเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งเป็นเหตุให้มีการแพร่เชื้อต่อไปยังคนจำนวนมาก
“สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขอประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยให้ระมัดระวังและตรวจสอบข้อกำหนดของแต่ละจังหวัดในการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส” สตม.ระบุในแถลงการณ์
ขณะที่ด้านนายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงในทวิตเตอร์ส่วนตัวด้วยว่า “กต. ได้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ และได้รับคำยืนยันว่า ตม.ไม่ได้มีการออกหนังสือแจ้งเวียนใด ๆ ไปยังสถานศึกษาตามที่เป็นข่าว ซึ่งข่าวดังกล่าวน่าจะเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน (ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.ปทุมธานี กำลังดำเนินการชี้แจงสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อข่าวดังกล่าว)
หลังจากกองทัพเมียนมาก่อการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ชาวไทยและชาวเมียนมาบางกลุ่มได้ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร เช่น หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย และหน้าอาคารสำนักงานขององค์การสหประชาชาติ