สธ. เฝ้าระวังสะเก็ดไฟ โควิด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบผู้ติดเชื้อ 399 ราย ขณะที่ในสถานกักกันทางเลือก ยังพบต่อเนื่อง รวมแล้ว 633 ราย
นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า การดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมโรคนั้น สธ. เฝ้าระวังสะเก็ดไฟ โควิด หากเกิดขึ้นจุดใด ต้องรีบเข้าไปล็อคจุดเป้าหมาย และระดมกำลังเข้าไปยุติการระบาดภายใน 28 วัน นับจากรายสุดท้ายที่เจอ
ทั้งนี้ ยกตัวอย่างของกรณีการพบผู้ติดเชื้อใน สถานกักตัว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดเชื้อรายแรก จากการทำหน้าที่ รับตัวผู้ต้องกักต่างด้าว และทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีประวัติการรับประทานอาหารร่วมกัน
กรณีนี้ นับเป็นตัวอย่างที่พบในหลายกรณี ที่เกิดการติดเชื้อจากการรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อกลับไปอยู่ร่วมกับญาติพี่น้อง ต้องพยายามรักษาระยะห่าง ไม่ควรใช้เวลาทานอาหารร่วมกันยาวนานเกินไป เพราะเป็นช่วงที่ไม่ได้ใส่หน้ากาก โดยเฉพาะครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ในบ้าน ที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อจากญาติที่ไปเยี่ยมในช่วงเทศกาล
นอกจากนี้ ใน ตม. ยังพบผู้ติดเชื้ออีก 1 ราย ที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทำหน้าที่ตักอาหาร ให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งไม่ได้เคร่งครัด การสวมหน้ากาก ไม่เคร่งครัดการสวมใส่ชุด PPE ทำให้มีความเสี่ยงติดเชื้อเกิดขึ้น
จากนั้น ได้มีการตรวจเชิงรุก เพื่อให้ครอบคลุมเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ส่งผลให้พบยอดผู้ติดเชื้อ กลุ่มที่เกี่ยวข้องในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อยู่ที่ 399 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รายงานไปแล้ว
อีกจุดที่เป็นข้อสังเกต และต้องเฝ้าระวังคือ กรณีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยช่วงหลังพบว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่มาจากคนละแหล่งกัน อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังในเรื่องการดูแล ระหว่างที่อยู่ในไทยไม่ให้มีการแพร่เชื้อไปในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ โดยล่าสุด พบผู้ติดเชื้อในสถานกักกันทางเลือก (ASQ) ถึง 633 รายในกลุ่มชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจาก อินเดีย สหรัฐ และอังกฤษ
ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์ประเทศไทย ยังคงพบการแพร่ระบาดในจุดเดิม คือ สมุทรสาคร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ล่าสุด มีเพิ่มเติมที่เขตสะพานสูง ซึ่งมีการตรวจตัดกรองเชิงรุกแล้วกว่า 400 กว่าราย พบผู้ติดเชื้อ 10 ราย เชื่อว่าสามารถควบคุมได้
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังเชิงรุก ในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ ตลาด ชุมชนใกล้เคียงชุมชนแรงงานต่างด้าว โรงงาน สถานประกอบการ ผับ บาร์
พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในโรงแรม ที่เป็น ASQ และโรงพยาบาล ให้ตามมาตรฐานที่กำหนด โดยเฉพาะการใส่และถอดชุด PPE การเก็บขยะ และงดคลุกคลีการของบุคลากรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเพิ่มการฉีดวัคซีน โควิด-19 ให้กับบุคลากรด้านหน้า และตรวจหาเชื้อเป็นระยะ เพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
เขตสะพานสูง 400 กว่าราย ตรวจน้ำลายติดเชื้อรวม 10 ทราย ซึ่งถือว่าไม่น่ากังวล
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 42 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 18 ราย และผู้ติดเชื้อในประเทศ 24 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 5 ราย และตรวจหาเชื้อ โดยผู้ติดเชื้อเดินทางไปตรวจ ที่โรงพยาบาล 19 ราย รักษาหายแล้ว 47 ราย และผู้ป่วยยังรักษาอยู่ 1,343 คน
เมื่อแยกเป็นรายจังหวัดพบว่า จากผู้ติดเชื้อในประเทศ 24 ราย มาจาก กรุงเทพฯ 10 ราย, สมุทรสาคร 11 ราย และสมุทรปราการ 3 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิด ตม. พบติดเชื้อแล้ว 374 ราย สธ.วอนประชาชน ช่วยสอดส่องผู้ลักลอบเข้าเมือง
- ‘หมอมนูญ’ แนะ ฉีดวัคซีน 1 โดสทุกคนปีนี้ ดีกว่ารอครบ 2 โดสแต่ไม่ครอบคลุม
- เช็คเลย! จังหวัดไหนยังเจอโควิด ‘หมอเบิร์ท’ ให้ระวัง คนนำเชื้อกลับมาติดคนที่บ้าน