วัดพระนอน อำเภอเมืองแพร่ จัดเป็นวัดเก่าแก่ที่สามารถสืบสาวความเป็นมาย้อนกลับไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว แม้เคยถูกทิ้งร้างในช่วงสงคราม แต่พอเหตุการณ์บ้านเมืองสงบ ชาวบ้านเกิดศรัทธาจึงช่วยกันบูรณะซ่อมแซม วัดให้สวยงาม พร้อมกับตั้งชื่อว่า “วัดต้นม่วง” และในการบูรณะครั้งนั้นนั่นเอง มีการค้นพบแผ่นทองคำจารึก ของพระนางเจ้าอู่ทองศรีพิมพา พระชายาของเจ้าพระยาชัยชนะสงคราม จึงได้รู้ว่าวัดนี้เดิมคือวัดพระนอน และสันนิษฐานว่าวัดนี้ได้สร้างสำเร็จในเดือนเก้าเหนือขึ้นสิบห้าค่ำโดยถือเอาคำจารึกในแผ่นทองคำเป็นหลัก และเมื่อย้อนความเป็นมาได้ดังนั้น ที่นี่จึงถือเป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดแพร่ ได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อ ปี พ.ศ. 1320 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2536 ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ อุโบสถซึ่งสร้างแบบสมัยเชียงแสนไม่มีการเจาะหน้าต่างแต่ทำผนังเป็นช่องแสงแทน สำหรับลวดลายหน้านั้นเป็นลวด ลายแบบอยุทธยาตอนปลายผูกเป็นลายก้านขดและ มีภาพรามเกียรติ์ประกอบ วิหารซึ่งมีรูปแบบการก่อสร้างเช่นเดียวกับอุโบสถแต่การตกแต่งบริเวณ ชายคาเป้นไม้ฉลุโดยรอบและหลังคาประดับด้วย ไม้แกะสลักเป็นรูปพระยานาคบริเวณหน้าจั่ว พระพุทธรูปนอนปางสีหไสยาสน์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น มีความยาว 5 เมตร ลงรักปิดทองตลอดองค์ เจดีย์ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำรูป 8 เหลี่ยม มีประพุทธรูปอยู่ 4 ด้าน Blog ท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ร้านชิค ๆ ในแพร่10 สุดยอดสถาปัตยกรรมอาคารเก่าแก่ในเมืองแพร่วัดเก่าแก่ในเมืองแพร่