พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แถลงรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 194 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 182 ราย แบ่งเป็นระบบเฝ้าระวังและบริการ 87 ราย และผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 95 ราย กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 12 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยรวมสะสม 29,321 ราย แบ่งเป็น การติดเชื้อในประเทศ 26,170 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 16,188 ราย รักษาหายแล้ว 27,840 ราย เหลือรักษาอยู่ 1,386 ราย แบ่งเป็นอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 920 ราย รพ.สนาม 466 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้อาการหนัก 12 ราย และใช้เครื่องช่วยหายใจ 6 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 95 ราย โดยการระบาดรอบใหม่มีผู้ติดเชื้อสะสม 25,084 ราย เสียชีวิตสะสม 35 ราย
ขณะที่ ตอนนี้ ศบค.ได้เน้นย้ำ จับตาเป็นพิเศษ กลุ่มจังหวัด เชื่อมโยง กับสถานบันเทิง ทองหล่อ-รัชดา ได้แก่ พื้นที่ กทม. ชลบุรี สระแก้ว ปทุมธานี และชุมพร
ส่วนการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ จ.นราธิวาส กรมควบคุมโรค ได้ลงสอบสวนพื้นที่ โดยพบว่า คนแรกที่ติดเชื้อ เป็นพยาบาล ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ดูแลนักโทษ เมื่อ 28 มี.ค. และไปปฏิบัติงานกู้ชีพ 29 มี.ค. เข้าใจว่า พยาบาลคนแรกเข้าไปดูแลนักโทษติดเชื้อ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ตรวจพบติดเชื้อ 29 มี.ค. จากนั้น นักโทษกลุ่มนี้ในเรือนจำนราธิวาส เดินทางไปร่วมงานที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้วันนี้ พบตัวเลข ติดเชื้อ 6 ราย ที่สุราษฎร์ธานี แต่ยืนยันเราสามารถจำกัด การแพร่กระจายเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังต้องจับตาการ จนท.ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้เสี่ยง ติดเชื้อเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ ต่อไป
ส่วนกรณีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานบันเทิง กทม.และปริมณฑล ตัวเลขเมื่อ 3 เม.ย. พบผู้ติดเชื้อ 71 ราย ซึ่งจนถึงขณะนี้ทาง ศบค.ยังคงเฝ้าติดตาม อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเคสที่ จ.ปทุมธานี ที่พบว่ามีนักศึกษา ติดเชื้อ 6 ราย ขณะที่ อ.ศาลายา จนครปฐม วันนี้พบผู้ติดเชื้ออีก 7 ราย ทั้งนี้ผู้ที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิง แล้วติดเชื้อโควิด-19 ที่ ทองหล่อ จตุจักร เอกมัย รัชดา พบว่า เบื้องต้น มีการเดินทางกระจายไปในจังหวัดจังหวัดอื่นๆ เช่น ชลบุรี เลย เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นคลัสเตอร์กลุ่มเดียวกัน
วันนี้ ศบค.จะมีการหารือกำหนดมาตรการ โดยอธิบดีกรมควบคุมโรค จะเสนอมาตรการกันโควิด-19 ต่อที่ประชุม ศบค. โดยการป้องกันโรคจะให้เจ้าพนักงานมีอำนาจ หากพบมีความเสี่ยง สามารถสั่งปิดสถานประกอบการ แล้วให้ไปจัดการทำตามมาตรการที่กำหนด ได้ทันที โดยมีข้อสรุปเป็น 3 ประเด็น
1.หากพบ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ใด มีการพบการติดเชื้อโควิด-19 จะต้องมีการปิดสถานบันเทิงในทันที เบื้องต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์
2.หากพบโซนสถานประกอบ ที่พบการติดเชื้อมากกว่า 1 แห่ง ต้องปิดทั้งโซน เช่น ย่านทองหล่อทั้งโซน
3.หากพบการติดเชื้อกระจายหลายพื้นที่ และไม่สามารถควบคุมได้ ให้อำนาจ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ผู้ว่าฯ กทม.พิจารณาสั่งปิดทั้งจังหวัดได้
นอกจากนี้ทาง ศบค.ยังเฝ้าระวัง และต้องมีมาตรการเข้มงวดร้านอาหาร แม้ตอนนี้ยังไม่พบมีการติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มเป็นก้อนในร้านอาหารก็ตาม แต่พบว่า ผู้ที่ไปในสถานบันเทิงก็มีการไปกินอาหารในร้านอาหารกับญาติพี่น้องด้วย ดังนั้น ศบค.ฝากเน้นย้ำ ให้สถานบันเทิง ร้านอาหาร พื้นที่ชุมนุม อยากให้ช่วยกันเฝ้าระวัง อย่างเข้มงวดที่สุด โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ ที่จะถึงนี้ ศบค. จะขอติดตามดูแลท่าน แบบ “หายใจรดต้นคอ” ตอนนี้ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อ แต่หากอีก 3 วัน มีรายงานเมื่อใด ก็ต้องสั่งปิด ดังนั้นของเจ้าของสถานประกอบการ และประชาชน ได้ช่วยกันสอดส่องดูแลอย่างเข้มงวดด้วย
สำหรับ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชน สถานประกอบการที่จัดกิจกรรม ดำเนินการตามมาตรการ DMHTT คือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจเช็กอาการของตนเองและสแกนไทยชนะ เพื่อให้เรามีสงกรานต์ผ่านไปด้วยความสุข หากมีผู้ติดเชื้อก็สามารถดูแลได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย เพื่อให้เป็นสงกรานต์ที่มีความสุข
“ขอให้ประชาชนระมัดระวังตนเอง เราสามารถมั่นใจได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่สบายใจทั้งหมดทีเดียว ต้องใส่ใจทั้งการเดินทาง ระหว่างการเดินทางที่มีความแออัดในระบบขนส่ง ต้องยกการ์ดสูงสุด การจัดกิจกรรม และนักท่องเที่ยว จะต้องระมัดระวังตนเอง เตือนกันเองในกลุ่มเพื่อนฝูง สถานประกอบการก็ต้องมีมาตรการดูแลคนในทุกฝ่าย”.