ศบค. รายงานคลัสเตอร์ใหม่เพียบ ที่สมุทรปราการ ครูต่างชาติ เชื่อมโยงสถานบันเทิง แพร่เชื้อให้นักเรียน และครอบครัว
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย โดยระบุว่า สำหรับกลุ่มก้อนที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ หรือการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ในโรงเรียนเอกชน ที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 32 ราย
ไทม์ไลน์เบื้องต้น พบว่า ครูชาวต่างชาติ 2 ราย ซึ่งเดินทางไปที่ จ.ภูเก็ต และมีประวัติเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง จากนั้นได้กลับมาสอนหนังสือ และคุมสอบตามปกติ รวมถึงร่วมงานเลี้ยงอำลาครู ซึ่งมีการโอบกอด ใกล้ชิดกับนักเรียน หลังเลิกเรียนไปตรวจโควิด-19 เนื่องจากเริ่มมีอาการ กระทั่งวันที่ 9 เมษายน ทราบผลตรวจพบเชื้อ
ซึ่งมีผู้ใกล้ชิดทั้งที่เป็นเพื่อนชาวแอฟริกัน ครูชาวไทย รวม 3 ราย ราย รวมถึงนักเรียนในห้องเรียนที่ทำการสอน และคุมสอบ ทั้งหมด 160 ราย ผลการตรวจ พบเชื้อในนักเรียน 23 ราย นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อในครอบครัวอีก 4 ราย
สำหรับเคสนี้ มีปัจจัยเสี่ยง คือ ครูชาวต่างชาติ และนักเรียน ไม่สวมหน้ากากอนามัยในห้องเรียน และมีการสัมผัสใกล้ชิดในงานเลี้ยงอำลาครู
นอกจากนี้ ยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสถานประกอบการ ระลอกใหม่เดือนเมษายน ดังนี้
- การไฟฟ้า สาขาอุดรธานี พบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 8 ราย
- 2 หน่วยงานใน จ.ปทุมธานี พบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 4 ราย
- บริษัทเอกชน 3 แห่งใน จ.นนทบุรี พบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 12 ราย
- ธนาคาร สำนักงานใหญ่ใน กทม. 2 แห่ง พบผู้ป่วยโควิด แล้ว 5 ราย และ บริษัทเอกชน ใน กทม. 1 แห่ง พบผู้ป่วยแล้ว 3 ราย
- บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จ.ชลบุรี พบผู้ป่วยแล้ว 23 ราย
- บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จ.สมุทรสาคร พบผู้ป่วยแล้ว 2 ราย
นพ.ทวีศิลป์ เผยด้วยว่า จากการระบาดเป็นกลุ่มก้อน พบว่า เกิดขึ้นหลังช่วงการเดินทางกลับบ้านในช่วงสงกรานต์ ซึ่งทางรัฐบาลไม่ได้มีการห้ามเดินทางแต่อย่างใด ดังนั้นสำหรับผู้ที่ยังอยู่ต่างจังหวัด ถ้าสถานประกอบการเห็นชุดข้อมูลตรงนี้แล้ว จะอนุญาตให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ หรือ Work From Home และไม่กระทบธุรกิจ ก็อยากให้อนุญาตเพื่อที่กลุ่มคนเหล่านี้จะได้ไม่ต้องเคลื่อนย้าย เพื่อลดการเคลื่อนย้ายประชากร ลดการแพร่กระจายของเชื้อ
อย่างไรก็ตาม สำหรับ ผู้ที่เดินทางกลับเข้า กทม. หลังหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ สามารถประเมินความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ทาง BKKCOVID19