รวบเจ๊เพชร ตัวการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเมียนมาเข้าไทย เครือข่ายใหญ่สุดในภาคกลาง ทำโควิดระบาดในตลาดกลางกุ้ง
จันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 16.20 น.
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ร่วมแถลงผลการปฏิบัติในการกวาดล้างกระบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพร้อมกันทั่วประเทศ สามารถจับกุมต่างด้าวผิดกฎหมาย และขบวนการนำพาได้จำนวนมาก
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีการแพร่ระบาดมาจากแรงงานต่างด้าว ใน จ.สมุทรสาคร ผลการสอบสวนโรคพบว่า มีสาเหตุมาจากต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมาโดยผิดกฎหมาย จึงตั้งคณะทำงานสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ดำเนินการ 2 มิติ ควบคู่กันไป มิติแรกคือการสกัดกั้นการลักลอบ ตามแนวชายแดนและเส้นทางเชื่อมต่อแนวชายแดนที่สำคัญ โดยบูรณาการร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และกำลังตำรวจทุกหน่วย โดยมีการตั้งจุดตรวจพื้นที่ชายแดน ทั้งหมด 284 จุด จุดตรวจพื้นที่ตอนใน 579 จุด ชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อลาดตระเวนตรวจสอบผู้ที่ลักลอบหลบจุดตรวจ เช่น ว่ายข้ามแม่น้ำ หรือ เดินเท้าข้ามป่า อีก 1,714 ชุดปฏิบัติการ อีกมิติ คือ “การสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งกระบวนการ ซึ่งพบว่าบางเครือข่ายก็มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ผลการปฏิบัตินับตั้งแต่ 1 ม.ค.- 11 ก.พ.64 สามารถจับกุมด่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 396 ราย นำหรือพาคนต่างด้าว 29 ราย และที่มีหมายจับค้างเก่าอีก 19 ราย, ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น คนต่างด้าวผิดกฎหมาย 91 ราย ยึดรถของกลางที่ใช้ในการนำพา 22 คัน โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายสำคัญจำนวน 21 จุด ในพื้นที่ 9 จังหวัด ที่ทั่วประเทศสามารถจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสิ้น 14 คน ยึดรถของกลาง 9 คัน และตรวจสอบรถยนต์ที่พบในบ้านผู้ต้องหาอีก 19 คัน และมีการสืบสวนขยายผลกจับกุมเครือข่ายนำพาแรงงานต่างด้าว มากกว่า 10 เครือข่าย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา บก.สส.สตม. ได้จับกุม นางราตรี เวชสุวรรณ หรือ “เจ๊เพชร” ในความผิดฐานนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ โดยเครือข่ายเจ๊เพชร เป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดของภาคกลาง มีพฤติการณ์ลักลอบนำเขา-ส่งออก แรงงานต่างด้าว จากประเทศเมียนมา มาส่งที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเกี่ยวพันกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับพฤติการณ์ของเจ๊เพชร จะทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์ฝั่งไทย ประสานกับเอเย่นต์เมียนมา เมื่อมีแรงงานที่ต้องการเข้าไทย จะต้องเสียค่าดำเนินการตั้งแต่ 6,000-12,000 บาท และเอเย่นต์ในเมียนมาจะออกเอกสารผ่านแดนให้แรงงาน หรือ Border pass และเข้ามาทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี หรือหากไม่มีเอกสารผ่านแดน ก็ลักลอบเข้ามาทางชายแดนธรรมชาติ จากนั้นเจ๊เพชรจะทำหน้าที่จัดหาที่ทำงาน และที่พักให้แรงงาน พร้อมสั่งให้ นายเย มิน และกลุ่มนายอองโจ เป็นผู้ขับรถพาแรงงานไปยังที่พักดังกล่าวใน จ.กาญจนบุรี และสมุทรสาคร ตามพื้นที่รับผิดชอบ เบื้องต้นตำรวจสามารถจับกุมเจ๊เพชร รวมถึงนายเย มิน และกลุ่มของนายอองโจได้แล้วรวม 4 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้อง
จากการสอบปากคำทราบว่า เครือข่ายของเจ๊เพชรลักลอบขนแรงงานต่างด้าวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี แม้ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาจะมีการปิดด่านพรมแดนข้ามประเทศ แต่เครือข่ายก็ยังมีการขนแรงงานเข้ามาอย่างผิดกฎหมายต่อเนื่อง ขณะนี้ เจ๊เพชรถูกฝากขังอยู่ภายในเรือนจำกลางบางขวาง เนื่องจากพนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นผู้มีอิทธิพล อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในอนาคต จึงคัดค้านการประกันตัว
นอกจากนี้ช่วงต้นเดือน ก.พ.64 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ บช.ภ.8 เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายหลายจังหวัดในภาคใต้ “เครือข่ายกะพ้อ ยะหริ่ง” ซึ่งทำหน้าที่นำเข้าและส่งออกแรงงาน 3 สัญชาติ ระหว่างไทยและมาเลเซีย ประสานกับเครือข่ายของ “เจ๊ดา ดอนเมือง” ซึ่งได้ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการ 10 คน ยึดรถของกลาง 7 คัน และสมุดบัญชีเงินฝากอีก 14 เล่ม สำหรับเครือข่ายเจ๊ดา และเครือข่ายจันดี ที่ลักลอบขนคนลาวและเขมร สามารถจับกุมเครือข่ายได้บางส่วนแล้วจะดำเนินการขยายผลต่อไป.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%