ผู้ว่าฯภูเก็ตเรียกกงสุล 16 ประเทศประชุมด่วน หลังมีชาวต่างชาติฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโควิดของจังหวัด วอนช่วยปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบคำสั่งของจังหวัดภูเก็ต ขณะที่ต่างชาติสอบถามจะได้ฉีดวัคซีนเมื่อไหร่
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.64 เวลา 14.00น. จังหวัดภูเก็ตประชุมผู้บริหารจังหวัดภูเก็ตร่วมกับกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำจังหวัดภูเก็ต โดย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมฯ โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ 16 ประเทศ เข้าร่วมประชุมฯ
ที่ประชุมรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทั่วโลก, ประเทศไทย และภูเก็ต มาตรการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19, กฎระเบียบสำหรับชาวต่างประเทศเพื่อป้องกันควบคุมการแพร่ระบาด, สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต การบริหารจัดการวัคซีน /Phuket Tourism Sandbox
ที่ประชุมชี้แจงปัญหาอุปสรรคที่ชาวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ตไม่ให้ความร่วมมือหลายรูปแบบในการใช้พื้นที่สาธารณะคือไม่สวมหน้ากากอนามัย การแอบจัดปาร์ตี้ในช่วงที่มีคำสั่งจังหวัดไม่ให้มีการรวมกลุ่ม
เมื่อชาวภูเก็ตให้คำแนะนำตักเตือนปรากฏว่าไม่ได้รับความสนใจ ไม่เข้าใจความเสี่ยงของโรค และเมื่อมีชาวต่างชาติเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะไม่ยอมเข้าสถานกักกันที่รัฐกำหนด,ไม่ยอมเข้ารักษาหรือสอบสวนโรค และไม่อยากจ่ายค่ารักษาพยาบาล
จึงขอความร่วมมือกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ทุกประเทศประจำจังหวัดภูเก็ตชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวต่างชาติของแต่ละประเทศด้วย สำหรับชาวต่างชาติอาศัยในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 11,000คน
ต่อมา เวลา 16.00น. ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมฯว่า จังหวัดเชิญกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ 16ประเทศมีทั้งกงสุลที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติ โดยสาระสำคัญที่ต้องการสื่อสารถึงกติกาหลายเรื่องในหลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ขอความร่วมมือชาวต่างชาติถือปฏิบัติด้วย โดยได้อธิบายในมาตรการต่างๆที่ต้องปฏิบัติ เพื่อให้เข้าใจในสถานการณ์ของภูเก็ต
“ผู้แทนกงสุลสอบถามในประเด็นการฉีดวัคซีนให้ชาวต่างชาติจะได้เมื่อไหร่ ซึ่งได้ชี้แจงให้ทราบว่า ต้องฉีดให้คนไทยก่อน หากรัฐบาลมีความชัดเจนให้เอกชนฉีดแก่ต่างชาติได้ เมื่อนั้นจะแจ้งให้ทราบ ทางกงสุลขอบคุณที่เราเปิดช่องทางสื่อสารให้เขารับรู้มากขึ้น เราได้ขอให้กงสุลไปบอกชาวต่างชาติที่อยู่ในกำกับดูแลของเขาเคารพปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบคำสั่งของจังหวัดภูเก็ต ขอให้ความร่วมมือด้วย” นายณรงค์ กล่าว และว่า
เมื่อกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์นานาประเทศรับรู้แล้วการสื่อสารคงรวดเร็ว และได้ย้ำว่าจังหวัดภูเก็ตเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะจัดการอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกับคนไทย