เมื่อบ่ายวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.30 น.ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ ถนนบ้านใหม่ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ น.พ.ขร วินัยพานิช นายแพทสาธารณสุขจังหวัดแพร่ มอบหมายให้ เภสัชกรเด่น ปัญญานันท์ รองนายแทพย์สารณสุขจังหวัดแพร่ร่วมกับ ทันตแพทย์หญิงขวัญหทัย มงคล หัวหน้ากลุ่มงานทันตสุขศึกษา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ แถลงข่าวกับสื่อมวลชนและมีการไลฟ์สดทางเพจสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่
โดยรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติผู้ป่วย โควิดจังหวัดแพร่ จนถึงเที่ยงคืนวันที่ ณ วันที่ 30 เมษายน 2564 มีการตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย รวมสะสม 74 ราย รักษาหายแล้ว 45 ราย ผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ 29 ราย แบ่งเป็นรักษาตัว ณ โรงพยาบาล 21 ราย โรงพยาบาลสนาม 8 ราย การติดเชื้อแบ่งเป็นรายอำเภอ ดังนี้ อำเภอเมืองแพร่ 37 ราย อำเภอสูงเม่น 14 ราย อำเภอลอง 9 ราย อำเภอเด่นชัย 3 ราย อำเภอวังชิ้น 3 ราย อำเภอร้องกวาง 4 ราย อำเภอหนองม่วงไข่ 3 ราย และจากกรุงเทพฯ 1 ราย อ.สองเป็นอำเภอเดียวในจ.แพร่ที่ยังไม่พบผู้ป้วย
………….โดยไทม์ผู้ป่วยรายที่ 73 เพศหญิง อายุ 59 ปี อาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ภูมิลำเนา ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ซึ่งสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 71 ผู้เป็นแม่ ผู้ป่วยรายที่ 74 เพศหญิง อายุ 48 ปี อาชีพข้าราชการ ภูมิลำเนา ต.แม่ยางตาล อ.ร้องกวาง จ.แพร่ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 65 สามี ไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายนี้ ได้ไปหลายแห่งเช่น เช่นวันที่ 8 เมษษยน 2561 งานสภากาแหของหวหน้าส่วนราชการจังหวัดแพร่ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเป็นต้น การประชุมกับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
…………ผู้สื่อข่าวรายงานที่น่าเป็นห่วง สำหรับคลัสเตอร์ คือ ผู้ป่วยรายที่ 71 และ รายที่ 73 ซึ่งเป็นแม่ลูกกัน แม่อายุ 85 ปี ขณะนี้ ศบค.จังหวัดแพร่กำลังสอบสวนหาที่มาที่ไปว่า ผู้ป่วยรายที่ 71และผู้ป่วยรายที่ 73 นั้นได้รับเชื้อจากใคร เบื้องต้นตรวจสอบจากลูกหลานที่เดินทางมาจากจ.พระนครศรีอยุธยาและชลบุรีก็ไม่พบ ทำให้ ศบค.แพร่หวั่นวิตกว่ากลัวเชื้อจะฝังคัวอยู่ในชุมชนบ้านวังหลวง หมู่ 1 ต.ทุ่งแค้ว อ.หนองม่วงไข่ จึงมีการคัดกรองสอบสวนโรคตลอดจนฉีดพ่นยาปเองกันโรคไปแล้วจะค้นหาที่มาที่ไปของผู้ป่วยรายที่ 71และ 74 มาจากที่ใดกันแน่
………..ศบค.แพร่ขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด 30 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา นครราชสีมา ขอนแก่น สระแก้ว อุดรธานี ตาก เชียงใหม่ เพชรบุรี เชียงราย อยุธยา ลำพูน นครสวรรค์ พิษณุโลก มหาสารคาม กำแพงเพชร สุโขทัย นครศรีธรรมราช ราชบุรี และปราจีนบุรี ให้กักตัวในที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน หรือตามระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดแพร่ สแกน QR Code “แพร่ชนะ” รายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. บุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือถ่ายเหลว ขอให้ไปรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน และผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่น ๆ รายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. บุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ สแกน QR Code “แพร่ชนะ” เฝ้าระวังและสังเกตอาการตนเอง 14 วัน
