วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 119 ณ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย พันเอก นายแพทย์ วิโรจน์ ชนม์สูงเนิน รองโฆษกฯ, พันโท วรปรัชญ์ กาศสกุล และ พันโท หญิง บุณฑริกา ฑีฆวาณิช ผู้ช่วยโฆษกฯ เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้
กองทัพภาคที่ 3 โดย ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดตั้ง ศูนย์อำนวยการโครงการกำจัดพืชเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ขึ้น ณ กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา โดยได้มอบหมายให้ กองพลทหารราบที่ 7 เป็นผู้รับผิดชอบหลัก เพื่อควบคุม อำนวยการ และกำกับดูแล การปฏิบัติงานตามแผนโครงการกำจัดพืชเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ประจำปี 2564 มีหน่วยตามโครงการในระดับพื้นที่ จำนวน 4 หน่วย คือ กองพลทหารราบที่ 4, กองพลทหารราบที่ 7, กองพลทหารม้าที่ 1 และฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์การลักลอบปลูกฝิ่นในปีนี้ สามารถประเมินได้ว่าพื้นที่ที่จะมีการลักลอบปลูกฝิ่นมีจำนวนลดลงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ประกอบกับในบางพื้นที่ ความเจริญเริ่มเข้าไปในพื้นที่ทุรกันดารมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างถนนและพัฒนาระบบสาธารณูปโภค แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการของผู้เสพและราคาของฝิ่นดิบ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ยังคงทำให้มีการลักลอบปลูกฝิ่นอยู่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก ซึ่งการดำเนินงานตามแผนงานโครงการกำจัดพืชเสพติด กองทัพภาคที่ 3 นั้น เป็นส่วนงานหนึ่งที่ดำเนินการตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นทาง – กลางทาง – ปลายทาง เพื่อที่จะทำให้พื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่น และพืชเสพติดชนิดอื่น ๆ ในภาคเหนือให้มีปริมาณลดลง และหมดสิ้นไป
โดยการควบคุมพื้นที่การลักลอบปลูกฝิ่น และการตัดทำลายไร่ฝิ่น ประจำปี 2564 เป็นการดำเนินงานแบบบูรณาการภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองทัพภาคที่ 3, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 และภาค 6, สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 และจังหวัด/อำเภอที่เกี่ยวข้อง (จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, ตาก, กำแพงเพชร, น่าน, พะเยา, ลำปาง และแพร่) โดยได้ร่วมกันกำหนดเป็นแผนงานที่มีความประสานสอดคล้องกัน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานร่วมกันในการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในระดับชุมชน และท้องถิ่น เพื่อให้รู้ถึงพิษภัยของยาเสพติด และการให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่อย่างจริงจัง
สถาบันสำรวจ และติดตามการปลูกพืชเสพติด สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายให้ กองทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบเข้าดำเนินการ ตามโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 64 พื้นที่ โดยได้แบ่งมอบความรับผิดชอบ ดังนี้
1) กองพลทหารราบที่ 4 จำนวน 8 พื้นที่ (จังหวัดตาก และจังหวัดกำแพงเพชร)
2) กองพลทหารราบที่ 7 จำนวน 23 พื้นที่ (จังหวัดแม่ฮ่องสอน, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย, จังหวัดพะเยา และจังหวัดลำปาง)
3) กองพลทหารม้าที่ 1 จำนวน 9 พื้นที่ (จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย, จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน)
4) ฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 โดย กรมทหารพรานที่ 31, กรมทหารพรานที่ 32,กรมทหารพรานที่ 33, กรมทหารพรานที่ 35 และกรมทหารพรานที่ 36 จำนวน 24 พื้นที่ (จังหวัดแม่ฮ่องสอน, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย, จังหวัดน่าน และจังหวัดตาก)
ซึ่งปัจจุบัน สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด (สพส. สำนักงาน ป.ป.ส.) ได้สำรวจและพบพื้นที่การลักลอบปลูกฝิ่นแล้ว จำนวน 163 แปลง คิดเป็นเนื้อที่ 94.66 ไร่ และด้วยการดำเนินการของ ศูนย์อำนวยการโครงการกำจัดพืชเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้ตัดทำลายการลักลอบปลูกฝิ่นไปแล้วกว่า 134 แปลง คิดเป็นเนื้อที่ 78.08 ไร่ หรือร้อยละ 82.48 ในการนี้ ศูนย์อำนวยการโครงการกำจัดพืชเสพติด กองทัพภาคที่ 3 มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้พื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่น และพืชเสพติดชนิดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้หมดสิ้นไปในที่สุด