สธ.เผยการฉีดวัคซีน COVID-19 ยังติดเชื้อได้ แต่ช่วยลดความรุนแรงของโรค ขอยังคงสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ขณะที่การฉีดวัคซีนเน้นหวังผลให้เกิดการลดการระบาดในไทย
วันนี้ (4 ก.พ.64) นพ.เศวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ความคืบหน้าผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนชาวไทยหลังจากที่ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนในประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ โดยระบุว่า ผลของการฉีดวัคซีนล้วนต้องการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คือ 1.ป้องกันการติดเชื้อ เมื่อเข้าเข้าไปในร่างกาย ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อได้ทันที ซึ่งเป็นอุดมคติ แต่การหวังผลจะเป็นระดับถัดไปคือ 2.ป้องกันการป่วย ยังเกิดการติดเชื้อ แต่ไม่มีอาการป่วย 3.ป้องกันการป่วยหนัก ยังเกิดการติดเชื้อ แต่อาการป่วยเล็กน้อย (ลดความรุนแรง) 4.ป้องกันการเสียชีวิต ยังเกิดการติดเชื้อ แต่ไม่เสียชีวิต (ลดความรุนแรง)
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องการดูมากที่สุดคือ การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ หากลดความรุนแรงลงได้ เช่น ลดจำนวนวันที่ป่วยลง โอกาสการแพร่กระจายก็จะลดลงหรือการตัดการแพร่กระจายลงได้ ซึ่งหลักในการศึกษาวิจัยวัคซีนวัดที่การป้องกันการป่วยและเสียชีวิตเป็นสำคัญแต่กรณีนี้เป็นการอนุมัติให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินยังคงต้องมีการติดตามต่อ เมื่อเริ่มใช้ก็จะมีการติดตามความปลอดภัยเพราะการฉีดในสเกลที่ใหญ่มาก และวัคซีนที่จะนำมาฉีดในไทยการใช้วัคซีนองแอสตราเซเนกา-มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งในอังกฤษฉีดไปแล้วในหลักล้านโดสก็ไม่มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด
วัคซีน ณ ตอนนี้ฉีดไปแล้วยังติดเชื้อได้อยู่ ยังไม่ใช่เป็นแบบอุดมคติที่ป้องกันการติดเชื้อได้ 100 % มาตรการการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ยังคงจำเป็น ต้องติดตามต่อไปจนกว่าการฉีดวัคซีนในหลายประเทศและไทยจนสามารถเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้น ว่าสามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ หรือลดการป่วยหนักหรือการเสียชีวิตได้สูงพอในระดับที่มาตรการอื่นสามารถชะลอลงไปได้
นพ.เศวตสรร ตอบคำถามถึงกรณีว่าการฉีดวัคซีนสามารถฉีดให้คนกลุ่มใดบ้างรวมถึงครอบคลุมชาวต่างชาติที่ทำงานในไทยหรือไม่ โดยระบุว่า คณะกรรมการและผู้เชี่ยวชาญ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบโดยหวังผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดในประเทศ ซึ่งการพิจารณานั้นทั้งการพิจารณาการเน้นหนักในพื้นที่ใด กลุ่มใด เพราะไม่สามารถให้กระจายไปทุกพื้นที่ในคราวเดียวได้ เพราะการหวังผลการฉีดในแต่ละพื้นที่จึงต่างกัน
จุดพื้นที่ที่มีปัญหาเยอะจึงจะได้น้ำหนักความสำคัญ เพราะเราได้วัคซีนในช่วงต้นยังไม่เยอะนัก การฉีดในพื้นที่เจาะจงและเหมาะสมจึงจะได้ผลที่ดีกว่าการกระจายไปในหลายพื้นที่และได้วัคซีนเล็กน้อยจนไม่เกิดผล และจะไปถึงกลุ่มต่างชาติหรือไม่ ในข้อพิจารณามีบริบทหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอะไรก็ตามที่สามารถป้องกันการระบาดให้ลดผลกระทบต่อคนไทยให้สูงที่สุดก็จะเป็นขอพิจารณาเพราะฉะนั้น คนทุกคนที่อาศัยบนผืนแผ่นดินไทยจะมีโอกาสที่จะอยู่ในข้อพิจารณาว่าส่วนใดที่จะได้รับและเกิดผลดีที่สุด
นพ.เศวตสรร กล่าวว่า การหวังผลในการฉีดในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ในวงแรกจะฉีดเจาะจงในพื้นที่ที่เหมาะสมมากกว่าการฉีดในหลายพื้นที่ การฉีดวัคซีนจะครอบคลุมไปจนถึงชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะมีบริบทในการพิจารณาซึ่งจะดูว่าจะมีผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในคนไทยมากที่สุด