ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 ม.ค. เวลา 11.30 น. พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 930 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยจากการเฝ้าระวังและระบบบริการ 27 คน ผู้ป่วยค้นหาเชิงรุกในชุมชน 889 คน จำนวนนี้อยู่ที่ จ.สมุทรสาคร 865 คน จ.สมุทรปราการ 18 คน จ.มหาสารคาม 4 คน กทม. 1 คน จ.ระยอง 1 คน ผู้ป่วยติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ 14 คน แบ่งเป็นมาจากมาเลเซีย 3 คน เข้าประเทศตามเส้นทางธรรมชาติและไม่เข้าสถานกักกัน และอีก 11 คน อยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ไนจีเรีย สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ประเทศละ 2 คน อิหร่าน เกาหลีใต้ และรัสเซีย ประเทศละ 1 คน ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 17,953 คน ยอดหายป่วยสะสม 11,505 คน อยู่ระหว่างรักษา 6,371 คน เสียชีวิตเพิ่มเติม 1 คน
เมียนมาป่วยตับแข็งไม่รอด
สำหรับผู้เสียชีวิตเป็นชายสัญชาติเมียนมา อายุ 31 ปี อาชีพรับจ้าง อาศัยและทำงานใน จ.สมุทรสาคร มีโรคประจำตัวโรคตับแข็ง ติดสุราเรื้อรัง มีประวัติเสี่ยงทำงานร่วมผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า โดยวันที่ 15 ธ.ค.63 มีไข้ แน่นหน้าอก ตาเหลืองตัวเหลือง ส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 29 ธ.ค.63 มีอาการปอดอักเสบ เหนื่อยหอบ และส่งตรวจหาเชื้อโควิด ต่อมาวันที่ 30 ธ.ค. ผลตรวจยืนยันพบติดเชื้อโควิด วันที่ 2 ม.ค.64 มีอาการเลือดออกทางเดินอาหาร วันที่ 19 ม.ค. มีอาการไตวานเฉียบพลัน อวัยวะล้มเหลว และเสียชีวิตวันที่ 27 ม.ค. ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 77 คน
หลังผ่อนคลายให้ ปชช.ป้องกันตัวเอง
พญ.พรรณประภากล่าวอีกว่า ถ้าดูจากกราฟที่เกิดขึ้นในช่วง 5 วันที่ผ่านมาจะพบว่าผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุกจะสูงขึ้น ส่วนใหญ่จะอยู่ จ.สมุทรสาคร และจะสูงขึ้นอีกระยะหนึ่งเพราะการค้นหาเชิงรุกยังทำต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือประชาชน เอกชน ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ และถ้าเราดูเฉพาะ กทม.จะเห็นว่าวันนี้มีผู้ติดเชื้อน้อยลง แต่วันที่ 1 ก.พ. ที่จะเริ่มมีมาตรการผ่อนคลายให้นั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารได้จนถึงเวลา 23.00 น.ขอให้ประชาชนทุกคนเฝ้าระวัง ป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ และถ้าเราดูพื้นที่ที่มีการติดเชื้อแบ่งเป็นรายสัปดาห์จะพบว่า ตั้งแต่สัปดาห์แรกของปี 64 มีจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ 39 จังหวัด สัปดาห์ที่ 2 ของปี มีจังหวัดพบผู้ติดเชื้อ 30 จังหวัด สัปดาห์ที่ 3 มี 24 จังหวัด และสัปดาห์ปัจจุบัน 17 จังหวัด สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะมาตรการและความร่วมมือของประชาชน ภาครัฐ ที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายกฯซาบซึ้งรถชีวนิรภัย
ต่อมานายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลและประชาชนไทยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยประชาชนไทยและได้พระราชทานรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน และรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานมาแล้วรวม 20 คัน เพื่อ ตรวจเชื้อโควิด-19 และวิเคราะห์ผลได้อย่างรวดเร็วขึ้น จะส่งผลให้การตรวจเชิงรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ นายกฯยังชื่นชมการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่มีการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานผิดกฎหมาย การมั่วสุมผิดกฎหมาย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ขณะที่ นพ.วิชาญ ปาวัน ผอ.ควบคุมโรคเขตเมือง เขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อในกรุงเทพมหานครในภาพรวมยังพบผู้ป่วยต่อเนื่องทุกวัน แต่มีแนวโน้มลดลง โดยผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับผับบาร์ คาราโอเกะ เขตบางพลัด ไม่พบผู้ติดเชื้อแล้ว ถือว่ากลุ่มก้อนนี้สงบลงแล้ว แสดงให้เห็นว่ามาตรการการปิดผับบาร์ คาราโอเกะ เป็นมาตรการที่ช่วยยับยั้งการแพร่โรคอย่างได้ผล ส่วนการตรวจค้นเชิงรุกในชุมชน พบในโรงงานที่มีแรงงานต่างด้าว โดยมีการสุ่มตรวจในโรงงานในเขตบางขุนเทียน บางบอน ภาษีเจริญ หนองแขม บางแค จำนวน 40 โรงงาน พบผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการ 4 แห่ง ซึ่งกำลังมีการสอบสวนโรคเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังพบการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มเพื่อนสนิท และคนใกล้ชิด แสดงให้เห็นว่ามีการย่อหย่อนในมาตรการป้องกันส่วนตัว ต้องระมัดระวังตนเอง ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงที่จะนำเชื้อไปแพร่ต่อคนใกล้ชิดได้
เคสปาร์ตี้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1
สำหรับผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับงานเลี้ยงวันเกิด 2 งาน ในกรุงเทพมหานครนั้น นพ.วิชาญกล่าวว่า พบผู้ป่วยเพิ่ม 1 คน รวมจำนวนผู้ติดเชื้อจากกรณีนี้ 30 คน ขณะนี้สถานการณ์ถือว่าค่อนข้างนิ่ง แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อไปจนครบระยะเวลาของการกักตัว 14 วัน กรณีงานเลี้ยงทั้ง 2 งานนี้ เป็นบทเรียนสำคัญของกรุงเทพมหานครและคนไทยทั้งประเทศในการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อในวงกว้าง โดยไม่นำตัวเองเข้าสถานที่และกิจกรรมที่เสี่ยง ขอให้ทุกคนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม มีจิตสาธารณะจะช่วยให้เราควบคุมโรคได้โดยเร็ว ส่วนกรณีนักเรียนและผู้ปกครอง รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จะไปโรงเรียนในกทม.ที่จะเปิดเรียนวันที่ 1 ก.พ.นี้ กรณีนั่งรถผ่านจังหวัดสมุทรสาคร ไม่ถือว่ามีความเสี่ยง โรงเรียนต้องทำความเข้าใจกับนักเรียน ผู้ปกครอง ขอให้เห็นใจซึ่งกันและกัน และขออย่าตื่นตระหนกจนเกิดผลกระทบต่อนักเรียนและผู้ปกครอง
จ่อเรียกดีเจมะตูมสอบปากคำ
ส่วนความคืบหน้ากรณี นายพันธ์ศักดิ์ เจริญสุข ผอ.เขตสาทร กทม.เข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีการจัดงานปาร์ตี้วันเกิด นายเตชินทร์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม ที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่โรงแรมบันยันทรี เขตสาทรเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างนัดหมายดีเจมะตูมมาสอบปากคำ ส่วนโรงแรมให้ข้อมูลแล้วว่าที่ผ่านมาเปิดตามเวลาที่ กทม.กำหนด ปิดไม่เกิน 21.00 น. ไม่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรื่องนี้กำลังรอให้ส่งใบเสร็จรับเงินมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบผู้ใดกระทำความผิดจะพิจารณาแจ้งข้อหาต่อไป ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดวันที่มีการจัดงานวันเกิด พบว่าดีเจมะตูมเข้าไปใช้บริการกับพวกประมาณ 14 คน วันดังกล่าวไม่ได้เหมาชั้นตามที่เป็นข่าว แต่มีลูกค้ารายอื่นๆไปใช้บริการด้วย
“แต้ว–ณฐพร” โชว์ผลตรวจครั้งที่ 3
อีกด้านหนึ่งนางเอกชื่อดังช่อง 3 “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” ที่ร่วมงานใกล้ชิดกับดีเจมะตูม เมื่อวันที่ 19 ม.ค. และได้กักตัวมาเป็นเวลา 11 วัน ต่อมาในวันที่ 30 ม.ค. นางเอกสาวได้แชร์ภาพในอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นผลตรวจเลือดและตรวจเชื้อโควิด-19 จากโรงพยาบาลรามคำแหง เป็นครั้งที่ 3 ผลออกมาเป็นลบ ไม่พบเชื้อโควิด-19 และระบุว่าตนเหลือเวลากักตัวอีก 3 วัน พร้อมติดแฮชแท็ก #แต้วต้องรอด แฟนคลับจึงเข้าไปให้กำลังใจจำนวนมาก
อาการผู้ว่าฯ สมุทรสาครคงที่
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.08 น. วันที่ 29 ม.ค. รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงอาการผู้ว่าฯ สมุทรสาครว่า อาการโดยรวมยังคงตัว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในการทำงานของปอดและระบบการหายใจโดยรวม สิ่งหนึ่งที่หวังว่าอาจช่วยกระตุ้นกำลังใจให้พลิกฟื้น คือการได้ยินเสียงและได้อยู่ใกล้ชิดกับคนคุ้นเคย รวมถึงอาจส่งผลด้านจิตวิญญาณที่ย้อนกลับมากระตุ้นระบบการรักษาสมดุลและการซ่อมสร้างแห่งกายา เป็นครั้งแรกที่ภริยาของท่านเข้าเยี่ยมพร้อมบุตรสาวบริเวณด้านข้างผ่านกระจกห้องพัก เสียงสื่อสารผ่านอุปกรณ์ที่นำไปวางข้างหูของท่าน เป็นถ้อยคำที่เสริมสร้างพลังชีวิตให้กับคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเกินครึ่งชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาวและความยากลำบากมานานัปการ รวมไปถึงถ้อยคำผ่อนคลายอารมณ์ที่แสดงถึงสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งของครอบครัว เชื่อมั่นและศรัทธาว่า ด้วยกรรมดีที่ท่านพ่อเมืองประพฤติต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อคนรอบข้าง และต่อสังคมโดยรวม จะเป็นกุศลกรรมที่หนุนนำให้ท่านฝ่าฟันอุปสรรคสุขภาพสำคัญครั้งนี้ไปได้
ตรวจเชื้อแล้วกว่า 1.15 แสนคน
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ทั่วประเทศ วันเดียวกัน นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผวจ.สมุทรสาคร เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงงานทั้ง 16 แห่งในพื้นที่ว่า ได้เน้นไปที่มาตรการด้านการปฏิบัติตนที่จะช่วยกันทำให้เศรษฐกิจเดินหน้า ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการทางการแพทย์ ซึ่งในการตรวจเชิงรุกอย่างเข้มข้นระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค.นี้ มีเป้าหมายการตรวจมากกว่าวันละ 1 หมื่นคน ทำให้พบยอดผู้ติดเชื้อที่ค่อนข้างมาก แต่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเดินมาถูกทางแล้ว โดยจุดที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่จะมีต้นตออยู่ในโรงงานหรือสถานประกอบการ เชื่อว่าหลังจากสัปดาห์นี้ไปแล้ว เมื่อตรวจโรงงานขนาดใหญ่เสร็จสิ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พบเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน จะค่อยๆ ลดลง และหลังจากนี้ตลอดทั้งเดือน ก.พ. จะเดินหน้าตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการขนาดเล็ก และชุมชนต่างๆ ตั้งเป้าไว้วันละประมาณ 2,000 คน โดยนับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 ระบาดระลอกที่ 2 จนถึงวันที่ 29 ม.ค. มีการตรวจเชิงรุกไปแล้ว 115,007 คน ทราบผลการตรวจเชิงรุกในห้องแล็บ รวม 94,078 คน พบผู้ติดเชื้อ 8,167 คน
ตะลุยตรวจเชิงรุกในชุมชน
นอกจากนี้ ตลอดวันสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในแหล่งชุมชน อาทิ ที่บริเวณสำนักงานเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก ม.1 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง มีประชาชนในพื้นที่ตำบลบางหญ้าแพรกเข้ารับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างจากน้ำลายราว 200 คน เช่นเดียวกับที่ตลาดทางรถไฟ สถานีรถไฟมหาชัย อ.เมือง มีการตรวจโควิด-19 เชิงรุกให้กับพ่อค้าแม่ค้าประชาชนแถวตลาดทางรถไฟและใกล้เคียง โดยใช้รถพระราชทานเคลื่อนที่ชีวนิรภัย 3 คัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วน รวมถึงแพทย์ พยาบาลจากจังหวัดกาฬสินธุ์มาร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วย โดยตั้งเป้าตรวจคนในตลาดทางรถไฟและตลาดแม่เน้ย จำนวน 600 คน
หญิงบ้านโป่งติดเชื้อรายแรก
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน ศูนย์โควิด-19 จ.ราชบุรี รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ 1 คน เป็นหญิง อายุ 58 ปี ชาว ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เป็นผู้ป่วยรายที่ 29 ของ จ.ราชบุรี และเป็นผู้ป่วยรายแรกของ อ.บ้านโป่ง โดยผู้ติดเชื้อเป็นภรรยาของผู้ป่วยรายที่ 4 ของ จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ม.ค. เดินทางมาจาก จ.มหาสารคาม ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เริ่มมีอาการป่วย ไปพบแพทย์ในวันที่ 23 ม.ค. ผู้ป่วยให้ประวัติไม่ได้เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง จึงได้รับยามารับประทาน ระหว่างนี้ผู้ป่วยเดินทางไปพื้นที่สาธารณะหลายที่ทั้งใน จ.กาญจนบุรี และพื้นที่ อ.บ้านโป่ง แต่สวมหน้ากากตลอดเวลา จนวันที่ 29 ม.ค. ทราบว่าสามีติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงไปตรวจหาเชื้อที่ รพ.เอกชน จ.นครปฐม ผลพบติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาที่ รพ.บ้านโป่ง โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงร่วมบ้าน 6 ราย
สมุทรปราการติดเชื้อโผล่ 20 คน
ส่วนที่ จ.สมุทรปราการ หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ติดต่อกันถึง 6 วัน แต่เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ม.ค. กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารสุข จ.สมุทรปราการ รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวดเดียวถึง 20 คน ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.บางพลี 8 คน แบ่งเป็นพบโดยการค้นหาเชิงรุก 7 คน สัญชาติเมียนมาทั้งหมด กับคนไทย 1 คน มีประวัติเดินทางกลับมาจากมาเลเซีย อ.บางบ่อ 10 คน แบ่งเป็นพบโดยการค้นหาเชิงรุก 10 คน เป็นคนไทย 2 คน กับชาวเมียนมา 8 คน และ อ.เมืองสมุทรปราการ พบ 2 คน คนแรกเป็นคนไทย มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 1 คน ส่วนอีกคนเป็นชาวกัมพูชา พบโดยการค้นหาเชิงรุก ทำให้ในขณะนี้ จ.สมุทรปราการมีผู้ติดเชื้อสะสมละลอกใหม่ 361 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ 225 ราย ยอดผู้ป่วยส่งมารักษาใน รพ.เอกชน 136 ราย
ระยองติดเชื้อ 1 จากคนในครอบครัว
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย รอง ผวจ.ระยอง นพ.สุนทร เหรียญ–ภูมิการกิจ สสจ.ระยอง ร่วมแถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 คน เป็นชายไทย อายุ 51 ปี เป็นบิดาของผู้ติดเชื้อรายที่ 572 และเป็นตาของผู้ติดเชื้อรายที่ 566 ของจังหวัด ทำให้ขณะนี้ระยอง มีผู้ติดเชื้อรวม 579 คน รักษาหายแล้ว 562 คน เหลือผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่ 16 คน
ตรวจ 1 พันคนโยง 6 ผู้ป่วยมหาสารคาม
ส่วนที่ จ.มหาสารคาม มีการจัด 5 จุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วย 6 ราย ล่าสุดของจังหวัด ได้แก่ 1.ศูนย์แพทย์สามัคคี 2.ศูนย์แพทย์บูรพา 3.ศูนย์แพทย์บ้านส่อง 4.ศูนย์แพทย์ราชภัฏ 5.ศูนย์แพทย์ศรีสวัสดิ์ ซึ่งมีประชาชนใน อ.เมือง และ ต.ท่าขอนยาง ต.ขามเรียง ของ อ.กันทรวิชัย ที่ คกก.จังหวัดฯประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงไปเข้าคิวตรวจเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะตรวจให้ได้ 1 พันคน หลังทราบไทม์ไลน์ของผู้ป่วยทั้ง 6 รายเรียบร้อยแล้ว
ไวรัสมรณะยังป่วนโลก
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่าในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 5.8 แสนคน สะสมทั้งหมด 102.62 ล้านคน เสียชีวิตเพิ่ม 1.49 หมื่นคน สะสมที่ 2.21 ล้านคน โดย 5 ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล รัสเซีย และสหราช-อาณาจักร ส่วนสถานการณ์ในอาเซียน 3 อันดับแรกที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุดในรอบ 24 ชม. ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 13,802 คน 5,725 คน และ 1,849 คน ตามลำดับ
ข่าวดีวัคซีนฉีดเข็มเดียวอยู่
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวดีเรื่องวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่เผยผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ทางคลินิกระยะที่ 3 แบบฉีดเข็มเดียวกับอาสาสมัครราว 44,000 คน กับผู้ป่วยโควิดระดับปานกลางถึงรุนแรงในสหรัฐ-อเมริกา ละตินอเมริกา และแอฟริกาใต้ แสดงให้เห็นถึงการป้องกันโคโรนาไวรัสในระดับรุนแรงได้ร้อยละ 85 ในผู้ใหญ่ทุกวัยและทุกกลุ่มเชื้อชาติ ใน 28 วันหลังการฉีดวัคซีน ส่วนอัตราประสิทธิผลโดยรวมในการป้องกันความเจ็บป่วยระดับปานกลางถึงรุนแรงในสหรัฐฯอยู่ที่ร้อยละ 72 และร้อยละ 66 ในทุกประเทศที่ทำการศึกษาผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการป้องกันไวรัสที่เกิดขึ้นใหม่หลายสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์ที่เพิ่งค้นพบในแอฟริกาใต้ที่เพิ่งตรวจพบในสหรัฐฯ ทั้งนี้ วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ใช้ดีเอ็นเอและไวรัสหวัดที่ได้รับการดัดแปลงและทำให้อ่อนแอเพื่อเข้าสู่เซลล์ของมนุษย์ จากนั้นจะกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและสอนให้ร่างกายต่อสู้กับไวรัสโคโรนาที่เข้าสู่ร่างกาย โดยบริษัทจะยื่นขออนุญาตใช้ในกรณีฉุกเฉินจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯในสัปดาห์หน้าและจะส่งมอบวัคซีน 1 พันล้านโดส ซึ่งจะผลิตในสหรัฐฯ ยุโรป แอฟริกาใต้ และอินเดีย ภายในปีนี้
ไต้หวันป่วยโควิดตายรายแรกของปี
ส่วนที่ไต้หวัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่ารัฐบาลไต้หวันรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเป็นครั้งแรกนับแต่เดือน พ.ค.ปีที่แล้ว ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพียง 8 ราย เนื่องจากไต้หวันมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่เพียงเล็กน้อย ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง วัย 80 ปี มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับไต และเบาหวาน โดยเสียชีวิตเมื่อช่วงสายของวันที่ 29 ม.ค. หลังจากมีไข้สูงและตรวจพบว่าติดโควิด-19 ซึ่งนับเป็นหนึ่งในผู้ป่วยจากคลัสเตอร์ในประเทศที่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลในเมืองเถาหยวน ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดครั้งใหม่ ที่มีผู้ป่วย 4 รายจากคลัสเตอร์นี้ และผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่บ้านเดียวกับพยาบาลที่ติดเชื้อโควิด-19 จากการทำงานที่โรงพยาบาลดังกล่าว ทำให้ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.64 จนถึงปัจจุบัน ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ รวม 19 คน