วันนี้ (3 เม.ย. 64) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ระลอกใหม่) ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 6 คน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี มีผู้ป่วยยืนยันสะสม รวม 17 คน (เดิม 11 คน หายป่วยแล้ว) โดยผู้ป่วยใหม่ 6 คนที่เพิ่มขึ้นล่าสุด เป็นกลุ่มผู้ต้องขัง 5 คน และผู้คุม 1 คน มาจากเรือนจำกลางนราธิวาส อายุระหว่าง 20-42 ปี เดินทางมาร่วมกิจกรรมประกวดผลงานด้านการต่อต้านยาเสพติดในส่วนของกรมราชทัณฑ์ ที่โรงแรมไดมอนด์พล่าซา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 07.00 -17.00 น.
จากการสอบสวนโรค เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 20.00 น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี มีผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางนราธิวาส เข้ารับการรักษาเนื่องจากมีอาการป่วย และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 คน ซึ่งทางโรงพยาบาลรับผู้ป่วยเข้ารักษาในห้องความดันลบแล้ว โดยผู้ต้องขังและผู้คุมจากเรือนจำกลางนราธิวาส จำนวน 8 คน เดินทางมาถึง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งผู้ต้องขังได้เข้าพักค้างคืนที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ส่วนผู้คุมเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี (อยู่ระหว่างการสอบสวน)
ต่อมาเรือนจำสุราษฎร์ธานี ได้รับการประสานจากเรือนจำกลางนราธิวาส ว่ามีผู้ติดเชื้อในเรือนจำและมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเดินทางมาร่วมกิจกรรม จึงได้นำผู้ต้องขังและผู้คุมทั้ง 8 คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อพบผลเป็นบวก 6 คนดังกล่าว โดยทำการกักตัวไว้ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และได้ทำการตรวจหาเชื้อผู้เสี่ยงสูง 135 คนในเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานีทุกคนแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19
ดังนั้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมประกวดผลงานและแสดงนิทรรศการ ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า ในวันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 07.00-17.00 น. ให้แยกตัวสังเกตอาการถึงวันที่ 16 เมษายน 2564 หากมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
ทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับสำนักป้องกันควบคุมโรค ที่ 11 นครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เข้าดำเนินการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดซึ่งมีผู้เสี่ยงสูงจำนวน 135 รายในเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานีมาตรวจหาเชื้อทุกคนผลไม่พบเชื้อ จึงเชื่อว่าจะยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้
