ห่วงเมียนมารวมตัวชุมนุมต้านรัฐบาล มาจากหลายพื้นที่ แพร่เชื้อโควิด-19อีกรอบ ตร.ถกด่วนขึงกม.เข้ม
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เชิญประชุมหน่วยด้านความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารสุขกรุงเทพมหานคร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หารือมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่อาจเกิดจากการชุมนุมของชาวเมียนมา
ตร.จับ 3 ผู้ชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา แจ้งข้อหาฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ชาวเมียนมาประกาศประท้วงจนกว่าจะชนะ
จากเหตุการณ์การชุมนุมของชาวเมียนมาบริเวณหน้า UN เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 7 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวเมียนออกมาชุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทหารของตน ปลดปล่อยนางอองซาน ซูซี และ คืนความเป็นประชาธิปไตยให้กับประชาชน
ที่ประชุมมองว่า การชุมนุมของชาวเมียนมา สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบว่ามีชาวเมียนมาจำนวนมาก เดินทางมาจากหลายจังหวัดที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงจังหวัดสมุทรสาครด้วย ทั้งที่มีประกาศของแต่ละจังหวัด ห้ามมิให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกับประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 5) เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขณะการชุมนุมดังกล่าวไร้มาตรการคุมทางสาธารณสุข ซึ่งอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกระลอก
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในที่ประชุมได้ฝากให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะฝ่ายปกครอง แรงงาน ตำรวจพื้นที่ และตรวจคนเข้าเมือง ไปประชาสัมพันธ์ ผู้ประกอบการ นายจ้าง ให้ทำความเข้าใจกับชาวเมียนมาในเรื่องข้อกฎหมาย เพราะขณะนี้ประเทศไทยยังเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด - 19 อยู่ แนะนำให้ชาวเมียนมาอยู่ในพื้นที่ของตนจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งในวันนี้ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีผู้ชุมนุมมารวมตัวกันบริเวณหน้า UN และสถานทูตเมียนมา
“หากชาวเมียนมาต้องการใช้สิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงออกก็สามารถกระทำได้หลายวิธี เช่น การส่งตัวแทนยื่นหนังสือ การแสดงออกผ่านโซเชียล หรือการขออนุญาตจัดกิจกรรมจากเจ้าพนักงานโดยดำเนินการตามมาตรการทางสาธารสุข เป็นต้น หากยังมีการฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และอาจต้องเพิ่มระดับความเข้มข้น”รองผบ.ตร.กล่าว