เมียนมา-กัมพูชา ขอตั้งศูนย์ชั่วคราวต่ออายุเอกสาร CI-เอกสารการเดินทาง ในฝั่งไทย 3 จุด รองรับแรงงานที่เอกสารจะหมดอายุ มี.ค.นี้ คาดรองรับแรงงานได้ 7.4 แสนคน ด้าน สนง.ความมั่นคงแย้งให้ตั้งศูนย์ได้เพียง 1 แห่ง ใน จ.สมุทรสาคร-ต้องมีเจ้าหน้าที่ไทยร่วมสังเกตการณ์ด้วย รอ ศบค.เคาะเห็นชอบ
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว (อคบต.) ที่กระทรวงแรงงานเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการหารือสาระสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1) การจัดตั้งศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity : CI) ของทางการประเทศเมียนมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแรงงานเมียนมาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และเอกสารรับรองบุคคล กำลังทยอยหมดอายุตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 ให้สามารถทำงานต่อได้
โดยในการหารือนั้นได้กล่าวถึงสถานที่จัดตั้งของศูนย์ดังกล่าวในพื้นที่ 3 แห่ง คือ ศูนย์จัดเก็บข้อมูลชั่วคราว มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร พื้นที่อื่นในมหาชัยตามที่ฝ่ายไทยจะเป็นผู้กำหนด และอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หากมีความ “จำเป็น” จะมีหน่วยเคลื่อนที่ หรือ Mobile Team Unit เพื่อดำเนินการต่ออายุเอกสาร CI ได้
ทางการเมียนมาระบุว่า จะมีการขนย้ายอุปกรณ์สำหรับใช้ภายในศูนย์ส่งมายังพื้นที่ที่ฝั่งไทยกำหนด บริเวณด่านชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากบริษัทด้านเทคนิค เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับมอบหมาย
ศูนย์ดังกล่าวจะเป็น “ศูนย์ชั่วคราว” ไม่เกิน 1 ปี ศักยภาพของศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคลดังกล่าว รองรับแรงงานเมียนมาได้ 800 คนต่อศูนย์ โดยในจำนวน 3 ศูนย์ที่กำหนดไว้เบื้องต้น สามารถออกเอกสารได้อยู่ที่ประมาณ 62,400 คน หรือประมาณปีละ 748,000 คน
สำหรับการทำงานของศูนย์ในช่วงเริ่มต้นนั้นจะออกเอกสารให้กับแรงงานที่มีอายุเอกสารหมดก่อนเป็นกลุ่มแรก นอกจากนี้ ทางการเมียนมายังขอรับการสนับสนุนจากฝั่งไทย คือขอให้รัฐบาลไทยอนุญาตเพื่อให้ฝ่ายเมียนมานำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไป อีกทั้งขอให้แจ้งวันเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการของศูนย์ เพื่อให้เปิดดำเนินการได้ทันเวลา และขอให้อำนวยความสะดวกในการขนส่งอุปกรณ์ การเดินทางและการเข้ามาปฏิบัติงานในไทย
นอกจากนี้ ในกรณีที่ครบกำหนดเวลา แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ เนื่องจากยังคงอยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะนำเสนอฝ่ายไทย เพื่อขออนุญาตดำเนินการต่อในส่วนที่เหลือ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหารือในประเด็นดังกล่าว สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมีข้อเสนอว่า ให้สามารถตั้งศูนย์ Cl ได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น คือ พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และต้องให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) พิจารณาเห็นชอบก่อน อีกทั้งต้องมีเจ้าหน้าที่คนไทยร่วมทำงานในศูนย์ดังกล่าวด้วย เช่น ตัวแทนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือเจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน และล่ามภาษา เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์
นอกจากนี้ยังต้องมีการคัดกรองเพื่อลดความแออัด เจ้าหน้าที่เมียนมาต้องปฏิบัติตามแนวทางของ ศบค. และจะต้องรอความเห็นชอบจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐนตรี หลังจากนั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ต่อไป ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ “เห็นชอบ” ในหลักการ และหากต้องการจัดตั้งจำนวน 1 ศูนย์ ต้องรอความเห็นจาก ศบค.ก่อนอีกด้วย
และ 2) การต่ออายุเอกสารการเดินทาง (Travel Document : TD) ประเทศกัมพูชา โดยกัมพูชาแจ้งว่าจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาขยายเอกสารด้วยการติดสติ๊กเกอร์ ลงในเล่มเอกสารการเดินทาง สำหรับช่วงแรกจะดำเนินการในสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย ส่วนระยะต่อไป มีแผนดำเนินงานในจังหวัดที่มีแรงงานกัมพูชาอยู่จำนวนมาก หรือตามที่กรมการจัดหางานแนะนำ
สำหรับแผนดำเนินการของกัมพูชาจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.พ.-พ.ย. 2564 ซึ่งเอกสารการเดินทางจะได้รับการขยายอายุต่ออีก 2 ปี นอกจากนี้ กัมพูชายังขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาบันทึกบัตรแรงงานกัมพูชาในต่างแดน ลงบัตรประจำตัวคนที่ไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) ทั้งนี้ ทางการกัมพูชาจะมีหนังสือแจ้งการดำเนินการต่าง ๆ ให้กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป