หนุ่มกลับจากแทนซาเนีย
นครชัยศรีวุ่นป่วยใหม่ 8
21ตลาดมหาชัยเปิดวันนี้
โควิดสายพันธุ์ใหม่จากแอฟริกาลามถึงไทยแล้ว สธ.พบหนุ่มวัย 41 ปี ติดเชื้อ หลังบินกลับจากแทนซาเนียไปทำงานรับซื้อพลอย 2 เดือน ตอนนี้เข้าอยู่สถานกักตัว เร่งคัดกรองคนมีอาการ ประวัติเสี่ยง ศบค.เผยไทยติดเชื้อเพิ่ม 166 ราย ปทุมธานีพบ 67 ราย ส่วนกทม.ติดอีก 11 สธ.จับตาโควิด‘ปทุมธานี-ตาก’ หลังพบติดเชื้อสูง ระบุโควิดตลาดพรพัฒน์ ปทุมธานี ป่วยแล้ว 175 ราย ลามไปอีก 8 จว. ด้านนครชัยศรี นครปฐม ป่วยใหม่ 8 รายเป็นเครือญาติกัน พ่อค้าแม่ค้ามหาชัยเฮ 21 ตลาดในสมุทรสาครเปิดแล้ววันนี้ หลังปิดมานานเกือบ 2 เดือน ส่วน‘ดีเจมะตูม’แจงเหตุขอเลื่อนนัดพบตร. อ้างต้องการรักษาโควิดให้หายก่อน
ไทยติดเชื้อเพิ่ม 166 ราย
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โรคโควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 ว่า วันนี้ประเทศไทยมี ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 166 ราย มาจากระบบเฝ้า ระวังในร.พ. 49 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 89 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 28 ราย หายป่วยเพิ่ม 931 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมมีจำนวน 24,571 ราย รักษาหายสะสม 22,111 ราย ยังรักษาอยู่ 2,380 ราย และเสียชีวิตสะสม 80 ราย
หากนับเฉพาะการระบาดระลอกใหม่มี ผู้ติดเชื้อสะสม 20,334 ราย หายป่วย 17,934 ราย เสียชีวิต 20 ราย ผู้ป่วยรายใหม่มาจาก 1.สมุทรสาคร 44 ราย สะสม 15,508 ราย 2.กทม. 11 ราย คิดสะสม 923 ราย และ 3.จังหวัดอื่นๆ 83 ราย สะสม 3,041 ราย
ปทุมธานีเจออีก 67-กทม. 11
เมื่อแยกตามที่มาของผู้ติดเชื้อ คือ 1.ระบบเฝ้าระวัง 49 ราย ได้แก่กทม. 11 ราย สระบุรี 2 ราย นครปฐม 1 ราย นครราชสีมา 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย และสมุทรสาคร 33 ราย 2.คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 89 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 11 ราย นนทบุรี 1 ราย ระยอง 3 ราย ตาก 7 ราย และปทุมธานี 67 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค และ 3.มาจากต่างประเทศ 28 ราย ได้แก่ แทนซาเนีย 8 ราย รัสเซีย อินเดีย ประเทศละ 3 ราย กานา และโมซัมบิก ประเทศละ 2 ราย เยอรมนี มัลดีฟส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิตาลี ปากีสถาน คาซัคสถาน ไนจีเรีย อียิปต์ สหราชอาณาจักร และสเปน ประเทศละ 1 ราย
สำหรับกทม. ติดเชื้อใหม่ 11 ราย พบว่าเป็นคนไทย 10 ราย พม่า 1 ราย เป็นชาย 3 ราย อายุ 30-47 ปี และหญิง 8 ราย อายุ 26-66 ปี อาชีพพนักงานมหาวิทยาลัย 1 ราย แม่บ้าน 1 ราย ค้าขาย 3 ราย พนักงานบริษัท 3 ราย ลูกจ้างหน่วยงานรัฐ 1 ราย ว่างงาน 1 ราย และไม่ระบุ 1 ราย เคยมีประวัติติดเชื้อ 1 ราย เข้ารับการรักษาร.พ.จุฬาลงกรณ์ 2 ราย ร.พ.เอกชน 7 ราย ร.พ.ราชวิถี 1 ราย และ รอประสาน 1 ราย ส่วนนครราชสีมาเป็นนักเรียนชายไทยอายุ 7 ขวบ
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อ รวม 109,101,906 ราย เพิ่มขึ้น 372,367 ราย เสียชีวิต 2,405,388 ราย เพิ่มขึ้น 10,146 ราย
กทม.ติดเชื้อแล้ว 923
ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 11 ราย เป็นการติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ทั้งหมด แบ่งเป็นเพศชาย 3 ราย อายุ 30-47 ปี เพศหญิง 8 ราย อายุ 26-66 ปี เป็นสัญชาติไทย 10 ราย และสัญชาติเมียน มา 1 ราย อาชีพ พนักงานมหาวิทยาลัย 1 ราย แม่บ้าน 1 ราย ค้าขาย 3 ราย พนักงานบริษัท 3 ราย ลูกจ้างหน่วยงานรัฐ 1 ราย ว่างงาน 1 ราย ไม่ระบุ 1 ราย เคยมีประวัติติดเชื้อ 1 ราย มีอาการ 6 ราย ไม่มีอาการ 5 ราย โดยผู้ป่วยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 2 ราย โรงพยาบาลเอกชน 7 ราย โรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย และอยู่ระหว่างประสานงาน 1 ราย
ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมระหว่างวันที่ 18 ธ.ค. 2563 – 14 ก.พ.2564 รวมอยู่ที่ 923 ราย อยู่อันดับ 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในประเทศ รองจากจ.สมุทรสาคร ที่มี ผู้ติดเชื้อ 15,508 ราย
นนทบุรีเจอสาวติดเชื้อเพิ่ม 1
วันเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.นนทบุรี รายงานพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ผู้ป่วยเป็นหญิงไทยอายุ 21 ปี อาชีพรับจ้าง ชาว อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นรายที่ 166 ของการระบาดระลอกใหม่ในพื้นที่จ.นนทบุรี
สำหรับไทม์ไลน์มีดังนี้ เมื่อวันที่ 27-29 ม.ค.อยู่กับพ่อแม่และน้องชายที่จ.นครปฐม และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จากนั้นวันที่ 30 ม.ค.เดินทางกลับจ.นนทบุรี วันต่อมาไปทำงานกับพ่อแม่ กระทั่งไปตรวจจนทราบว่าติดเชื้อโควิด โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 3 คน และเพื่อนร่วมงานในแคมป์ 75 คน
21 ตลาดมหาชัยเปิดวันนี้
วันเดียวกัน เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยฝ่ายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลนครสมุทรสาคร นำรถน้ำดับเพลิงที่บรรทุกน้ำคลอรีนเข้มข้นฉีดพ่นตลาดในพื้นที่ฝั่งมหาชัยอีกครั้ง หลังดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.พ. โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายจะเน้นที่ตลาดใหญ่ๆ ที่มีผู้มาจับจ่ายซื้อของจำนวนมาก เช่น ตลาดถนนสุขาภิบาล ตลาดสดมหาชัย และตลาดรถไฟ เป็นต้น โดยล้างทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของตลาดซ้ำอีกครั้ง ตามแผนปฏิบัติการล้างตลาด 22 แห่ง ครบจบ 3 วัน ระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ.64 เพื่อเรียกความมั่นใจให้แก่ประชาชนทั้งผู้ซื้อ ผู้บริโภค และผู้ขาย
ส่วนการเปิดตลาดในวันที่ 15 ก.พ. 2564 นั้น เบื้องต้นจะเปิดก่อน 21 ตลาด ยกเว้นตลาดรถไฟที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต้องการปิดปรับปรุงต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อให้ได้มาตรฐานมากขึ้นกว่าเดิมที่ทำกันอยู่แล้วในปัจจุบัน ทั้งเรื่องระเบียบ มาตรการ และการจัดทำอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติม เช่น แผงกั้นหน้าร้าน เป็นต้น โดยตลาดรถไฟจะเลื่อนไปเปิดวันที่ 18 ก.พ. 2564
ขณะเดียวกัน วันนี้ที่ตลาดรถไฟมีการแจกบัตรประจำตัวผู้ค้าและแรงงานในแต่ละร้านที่ผ่านการตรวจโควิด-19 แล้วไม่พบเชื้อ
ส่วนมาตรการของตลาดในเขตเทศบาลนครสมุทรสาครทั้ง 22 แห่งจะต้องยึดปฏิบัติอย่างเข้มข้น คือผู้ค้า ทั้งพ่อค้า แม่ค้า จะต้องลงทะเบียนกับทางเทศบาล มีป้ายชื่อกำกับ ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และมีผลยืนยันไม่พบเชื้อ ตลอดจนต้องสวมหน้ากากอนามัย ถุงมือและอุปกรณ์ป้องกัน คนงานก็ต้องลงทะเบียน มีป้ายชื่อกำกับ ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และมีผลยืนยันไม่พบเชื้อ ต้องสวมหน้ากากอนามัย ถุงมือและอุปกรณ์ป้องกัน รวมถึงรองเท้าบู๊ต ขณะที่ ผู้ซื้อจะต้องผ่านการคัดกรองก่อนเข้าตลาด ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะจับจ่ายซื้อของในตลาด และเว้นระยะห่างด้วย
สธ.ชี้แนวโน้มติดเชื้อลดลง
วันเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่า สถานการณ์ติดเชื้อทั่วโลกสะสม 109.10 ล้านราย เป็นรายใหม่ 3.7 แสนราย ด้วยมาตรการของแต่ละประเทศ ทั้งล็อกดาวน์ สวมหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้น เว้นระยะห่างและควบคุมการเดินทาง ทำให้แนวโน้มดูลดลง แต่การเสียชีวิตยังสูงอยู่ รายใหม่วันนี้ 10,146 ราย สะสม 2.40 ล้านราย คิดเป็นอัตราเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 2.2 สำหรับทวีปเอเชียมีประเทศสีแดง คือมาเลเซีย รายใหม่ 3,499 ราย สะสม 261,805 ราย เมียนมา 42 ราย สะสม 141,585 ราย อินโดนีเซีย 8,844 สะสม 1.21 ล้านราย ญี่ปุ่น 1,403 ราย สะสม 413,154 ราย
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 166 ราย ในการระบาดรอบใหม่สะสม 20,334 ราย รักษาหายแล้ว 17,934 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม สะสม 20 ราย อย่างไรก็ตาม การควบคุมโรคจ.สมุทรสาคร ใช้แผน 3 ระยะ ขณะนี้อยู่ระยะการควบคุมโรคในพื้นที่มีการระบาดของโรคสูงในโรงงานต่างๆ หรือที่เรียกว่า บับเบิ้ล แอนด์ ซีล แต่ยังมีการคัดกรองเชิงรุกพื้นที่รอบโรงงาน แต่ความชุกของโรคไม่สูง ทำให้สถานการณ์ดูเหมือนควบคุมได้ดี วันนี้มีรายงานติดเชื้อใหม่ 44 ราย แบ่งเป็นผู้เข้ารักษาในระบบเฝ้าระวังและบริการ 33 ราย ส่วนใหญ่การตรวจเชื้อซ้ำในโรงงาน และคัดกรองในชุมชน 11 ราย ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา มีแนวโน้มลดลง เป็นสัญญาณที่ดี ส่วนกรุงเทพมหานคร รายใหม่ 11 ราย มีการเพิ่มขึ้นและลดลงเป็นบางวัน ทั้งนี้ภาพรวมประเทศรอบสัปดาห์นี้ วันที่ 14 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อใน 10 จังหวัด แสดงให้เห็นว่าจังหวัดอื่นมาตรการได้ผล ไม่พบติดเชื้อใหม่ แต่ต้องเฝ้าระวังและคัดกรองต่อเนื่อง
“แนวโน้มพบผู้ติดเชื้อในประเทศทรงตัว การค้นหาเชิงรุกจำนวนมากแต่ไม่พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น แปลว่า แหล่งระบาดใหญ่เริ่มลดน้อยลง ส่วนใหญ่เป็นแหล่งเล็ก การติดเชื้อไม่สูง ดังนั้น หากค้นหาได้เร็ว ก็จะไม่แพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง” นพ.โอภาสกล่าว
โควิดปทุมฯลาม 8 จว.
นพ.โอภาสกล่าวว่า สิ่งที่ต้องแจ้งเตือนการระบาดใน จ.ปทุมธานี โดยเฉพาะอ.ธัญบุรี โดยผู้ว่าฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ออกคำสั่งปิดตลาดพรพัฒน์ จากข้อมูลการค้นหาเชิงรุก ตั้งแต่วันที่ 9-13 ก.พ. รวม 1,333 ราย พบการติดเชื้อ 175 ราย คนไทย 111 ราย และต่างด้าว 64 ราย ส่วนใหญ่อยู่กลางตลาด อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นจากตลาด ข้อสังเกตคือผู้ขายในตลาดมีการเปลี่ยนที่ขาย เช่นวันจันทร์อยู่ จ.สมุทรสาคร อีกวันอยู่จ.เพชรบุรี วันพุธมาที่จ.ปทุมธานี ดังนั้นจึงมีการติดเชื้อในจุดต่างๆ รวดเร็ว
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า พบว่าผู้ติดเชื้อรายแรกขายของที่จ.สมุทรสาคร และจ.ปทุมธานี ซึ่งคำถามว่า ตลาดไม่ใช่สถานที่ปิด มีแผนผังขายเป็นแถวๆ แต่ทำไมเกิดการติดเชื้อ ทีมควบคุมโรคจึงตั้งข้อสังเกตว่า แม้อยู่ในที่แจ้งแต่ลักษณะอาคารมีหลังคาเตี้ย ช่วงกลางตลาดอากาศไม่ถ่ายเท แม่ค้ารับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งช่วงอากาศที่ร้อนก็อาจไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งต้องสอบสวนรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ เป็นจุดที่ต้องไปพิจารณาเรื่องการถ่ายเทอากาศในตลาด เคร่งครัดการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงระบุคนที่เข้า-ออกตลาด เพราะเมื่อตลาดหนึ่งปิดผู้ค้าก็เปลี่ยนไปขายตลาดอื่นต่อ ก็อาจเป็นการแพร่กระจายเชื้อได้ จึงต้องเน้นย้ำทั้งลูกค้าและผู้ค้าให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
“ผู้ค้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้องจากตลาดพรพัฒน์ เดินทางไปยังแหล่งอื่นๆ หรือไปเยี่ยมญาติอีก 8 จังหวัด โดย จ.นครนายก 7 ราย จ.เพชรบุรี 3 ราย จ.สระบุรี 2 ราย กรุงเทพฯ 2 ราย พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครราชสีมา และแพร่ จังหวัดละ 1 ราย เช่นกรณีจ.นครราชสีมา พบเป็นเด็กอายุ 7 ขวบ มีแม่ประกอบอาชีพที่ตลาดนั้น และติดเชื้อจากแม่ ดังนั้น ท่านใดที่สัมผัสกับตลาดพรพัฒน์ หรือกับผู้ค้า ตั้งแต่ช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. หรือก่อนหน้านั้น 7 วัน หรือหากไม่แน่ใจ มีอาการสงสัยให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือสอบถามสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ซึ่งสำคัญมาก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคได้”
โควิดสายพันธุ์แอฟริกาลามไทย
นพ.โอภาสยังกล่าวถึงกรณีเชื้อโควิด -19 กลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้เข้ามาในประเทศไทย ว่า การกลายพันธุ์ของเชื้อ โควิด-19 เราให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น คือ 1.ทำให้เชื้อระบาดง่ายขึ้น เช่นสายพันธุ์อังกฤษ ทำให้แพร่ระบาดง่ายในยุโรป เป็นต้น 2.ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง เช่นสายพันธุ์แอฟริกาใต้ เป็นที่มาข่าวแอฟริกาใต้ระงับการฉีดวัคซีนบางตัว และ 3.ทำให้โรครุนแรงขึ้นซึ่งตอนนี้ยังไม่พบ สำหรับประเทศไทยตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์จี ที่พบมากที่สุดทั่วโลก ซึ่งทำให้ติดง่าย ไม่รุนแรง ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ
ทั้งนี้ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อื่นๆ มีโอกาสพบเจอได้ เช่นก่อนหน้านี้พบสายพันธุ์อังกฤษในครอบครัวชาวอังกฤษที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย แต่การกักกันและตรวจทางห้องปฏิบัติการทำให้เชื้อไม่แพร่กระจายสู่ชุมชน ล่าสุดพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้ (South African Variant) รายแรกของประเทศไทย เป็นชายไทยอายุ 41 ปี ทำงานรับซื้อพลอยอยู่ที่ประเทศแทนซาเนีย 2 เดือน โดยให้ประวัติว่าที่แทนซาเนียไม่มีผู้ป่วย จึงไม่มีการสวมหน้ากาก วันที่ 29 ม.ค. มาต่อเครื่องเอธิโอเปียและเดินทางมาไทย อาการสบายดี จึงเข้ารับการกักกันในสเตต ควอรันทีน วันที่ 3 ก.พ.ตรวจพบเชื้อเข้ารับการรักษาที่ ร.พ. อย่างไรก็ตาม เนื่องเดินทางมาจากแอฟริกา จึงมีการเก็บตัวอย่างส่งไปถอดรหัสพันธุกรรม ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย พบว่าเป็นสายพันธุ์แอฟริกาใต้
“ทีมสอบสวนโรคจึงลงไปตรวจสอบสถานกักกันโรคและร.พ. พบว่าเจ้าหน้าที่ใส่เครื่องป้องกันอย่างดี และเก็บตัวอย่างส่งตรวจพบเป็นลบทุกคน สำหรับสายพันธุ์แอฟริกาใต้ส่วนใหญ่พบการระบาดในทวีปแอฟริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา ส่วนในเอเชียยังไม่มี จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีผลกับประเทศไทย ดังนั้นการคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่พบสายพันธุ์นี้ โดยนำเข้าสู่การกักกัน เก็บตัวอย่างทันทีที่ถึงประเทศไทย คัดกรองผู้ที่มีอาการและประวัติเสี่ยงเข้า ร.พ.ทันที และตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทำให้เชื้อไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็ไม่กระจายติดในชุมชนได้” นพ.โอภาสกล่าว
ปทุมธานีปิดโรงเรียน 12 แห่ง
จากสถานการณ์โควิดในจ.ปทุมธานีที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดสำคัญ ทำให้จำนวนยังเพิ่มมากขึ้นไม่หยุด จนต้องปิดบางพื้นที่นั้น
ล่าสุดเทศบาลนครรังสิตประกาศแจ้งปิดสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครรังสิตทั้ง 12 แห่ง เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ โควิด-19) ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 ถึงวันศุกร์ที่ 19 ก.พ.2564 และให้มาเรียนตามปกติในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. โดยระหว่างปิดสถานศึกษาให้จัดการเรียนการสอนออนไลน์ และให้ ผู้ปกครองและนักเรียนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของรัฐอย่างเคร่งครัด หากมีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือสัมผัสกลุ่มผู้มีความเสี่ยง ให้กักตัว และแจ้ง เจ้าหน้าที่
สำหรับสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครรังสิตที่ประกาศปิดในครั้งนี้ ประกอบด้วยโรงเรียนนครรังสิต สิริเวชชะพันธ์ และ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ โรงเรียนนครรังสิต รัตนโกสินทร์ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ โรงเรียนนครรังสิต เทพธัญญะอุปถัมภ์ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ โรงเรียนนครรังสิต เปรมปรีดิ์ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ โรงเรียนเพียรปัญญา และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ สินสมุทร ศูนย์พัฒนาเด็กเด็กฯ เอื้ออาทรรังสิต โรงเรียนดวงกมล โรงเรียนมัธยมนครรังสิต
ปทุมธานีพบติดเชื้ออีก41ราย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี รายงานว่า ล่าสุดผู้ติดเชื้อรายใหม่จากดำเนินงานตรวจเชิงรุกเพิ่มอีก 41 ราย
อยุธยาวุ่น-แม่ค้าปลาเค็มติดเชื้อ
วันเดียวกัน นพ.พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลผักไห่ จ.พระนครศรี อยุธยา พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่รายที่ 45 ของจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นหญิงไทย อายุ 42 ปี ชาวอ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา อาชีพขายปลาเค็ม ที่ตลาดพรพัฒน์ ต.ประชา ธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ทีมควบคุมโรคติดต่อ ทีมสอบสวนโรค อ.ผักไห่ พบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 5 ราย ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว 1 ราย ผลการตรวจไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 4 รายอยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อ
โดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อสั่งให้กักกันตัว 14 วัน พร้อมเฝ้าระวังและค้นหา ผู้สัมผัสเพิ่มเติม ทั้งพนักงานร้านสะดวกซื้อ ในโรงเรียน และในชุมชน นอกจากนี้ยังมอบหมายผู้นำชุมชนอสม.ดูแลเรื่องเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในช่วงระยะเวลาที่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องกักตัว ให้คำแนะนำร้านสะดวกซื้อ เน้นการลงทะเบียนเข้า-ออกร้านด้วยแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” การสวมใส่หน้ากอนามัย วัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนเข้าร้าน ประสานสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี ค้นหาผู้สัมผัสโรคนอกเขตพื้นที่จังหวัดเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจ.พระนครศรี อยุธยา ไม่พบป่วยติดเชื้อโควิด-19 ติดต่อกันมานาน 15 วัน กระทั่งล่าสุดมาพบผู้ป่วยติดเชื้อมาจากตลาดพรพัฒน์
นครชัยศรีป่วยโควิดอีก 8
วันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนครปฐม เผยข้อมูลถึงสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดนครปฐมว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมตรวจพบผู้ป่วยระลอกใหม่ยืนยันอีก 8 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมขณะนี้ 88 ราย เป็นคนไทย 85 ราย ต่างชาติ 3 ราย พักรักษาตัวในร.พ.นครปฐม 11 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 8 ราย ซึ่งเป็นรายที่ 81-88 อยู่ในต.ดอนแฝก อ.นครชัยศรี ทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน และอาศัยอยู่ในบ้านที่ปลูกอยู่ในบริเวณเดียวกันกับผู้ป่วยรายที่ 80 ซึ่งเป็นชายสูงอายุ ต.ดอนแฝก อ.นครชัยศรี
โดยผู้ป่วยรายที่ 81 เป็นชายอายุ 45 ปี รายที่ 82 เป็นชาย อายุ 6 ขวบ ผู้ป่วยรายที่ 83 เป็นหญิง อายุ 65 ปี ผู้ป่วยรายที่ 84 เป็นชายอายุ 12 ปี ผู้ป่วยรายที่ 85 เป็นหญิง อายุ 43 ปี ผู้ป่วยรายที่ 86 เป็นหญิง อายุ 15 ปี ผู้ป่วยรายที่ 87 เป็นชาย อายุ 65 ปี และผู้ป่วยรายที่ 88 เป็นหญิง อายุ 63 ปี
โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกรายได้รับการดำเนินการตามมาตรการ ขณะที่ไทม์ไลน์อยู่ระหว่างสอบสวนโรค
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ป่วยรายที่ 80 อายุ 68 ปี ชาวต.ดอนแฝก ต้นเหตุการแพร่ระบาด ผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 8 รายนี้ มีการรวมตัวกันที่สภากาแฟศาลาอเนกประสงค์ ม.4 ต.ดอนแฝก อ.นครชัยศรี คาดว่าจะมีผู้ป่วยจากการสัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง และเป็นพาหะแพร่เชื้อ
‘ดีเจมะตูม’เลื่อนพบตร.
เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการออกหมายเรียกนายเตชินท์ พลอยเพชร หรือ “ดีเจมะตูม” มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดพ.ร.บ.โรคติดต่อ และความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งตำรวจนัดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.นั้นว่า เจ้าตัวยังไม่ได้แจ้งว่าจะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 15 ก.พ.หรือไม่ แต่หากไม่มาก็ต้องออกหมายเรียกครั้งที่ 2
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางทนายความของดีเจมะตูมแจ้งกับพนักงานสอบสวนสน. ทุ่งมหาเมฆ ว่าขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาไปก่อน เนื้องจากต้องการรักษาอาการป่วยโควิดให้หายก่อน
หากวันที่ 17 ก.พ.ดีเจมะตูมไม่ติดต่อมา พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกอีกครั้ง
ขณะที่ “ดีเจมะตูม” โพสต์ไอจีชี้แจงถึงกรณีพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ระบุเตรียมออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ว่า “ขออนุญาตชี้แจงในส่วนของข่าวที่ออกมาวันนี้นะครับ คือหลังจากที่ตูมได้หมายเรียกจากสน.ทุ่งมหาเมฆ ให้ไปสอบปากคำ พร้อมรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 กพ. ตูมได้ติดต่อไปยังสน. ทุ่งมหาเมฆตั้งแต่วันที่ 11 กพ.แล้วว่าไม่สามารถออกจากบ้านไปสน.ในวันที่ 15 กพ.ตามหมายเรียกได้ พร้อมยังแนบเอกสารใบรับรองแพทย์ว่าตูมต้องกักตัวเองจนถึงวันที่ 17 ก.พ. ตามแพทย์สั่ง และต้องการที่จะไปตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้งหลังครบกักตัว เพื่อความปลอดภัยของตัวตูม และทางเจ้า หน้าที่เอง”
“ถ้าผลครั้งนี้ออกมาว่าไม่พบเชื้อ ตูมจะรีบติดต่อทางเจ้าหน้าที่ เพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหาทันที โดยเอกสารทุกอย่างของตูมส่งไปทางอีเมล์ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. และเจ้าหน้าที่สน.ทุ่งมหาเมฆรับทราบเรื่องและเหตุผลการเลื่อนหมายของตูมเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ทุกอย่างเป็นการติดต่อกันระหว่างตัวตูมและเจ้าหน้าที่โดยตรง (ผ่านทางโทรศัพท์) และมีเพียงเลขาเป็นตัวแทนเขียนและส่งข้อความครับ ไม่ได้ผ่านทนายอะไรทั้งสิ้น”
“พอมีข่าววันนี้ออกมาว่าวันนี้ว่าตูมไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ และถ้าตูมไม่ไปตามหมายเรียกวันที่ 15 ก.พ. ตูมจะได้หมายเรียกใบที่ 2 ในวันที่ 17 ก.พ. ตูมเลยขออนุญาตชี้แจงกับพี่ๆ สื่อตรงนี้เลยว่า ตูมแจ้งทางสน.ไปแล้วนะครับว่า เหตุผลที่ตูมไม่ไปตามหมายเรียกฉบับแรก เป็นเพราะว่าตูมต้องปฏิบัติตามขั้นตอนแบบเคร่งครัด ทั้งเรื่องแผนการรักษา เรื่องข้อกฎหมาย และไม่ได้นิ่งนอนใจใดๆ ครับ ยังยืนยันว่าถ้าหายดี จะไปให้ปากคำแน่นอน อย่างที่ทุกคนทราบว่าโรคนี้ถึงเราไม่เป็นอะไร แต่คนอื่นอาจติดแล้วเป็นได้ เลยต้องขอทำตามแพทย์สั่งก่อนจริงๆ ครับ เพราะถ้าตูมเอาเชื้อไปแพร่ที่สน.ขึ้นมา ตูมกลัวจะรับผิดชอบไม่ไหว อยากชี้แจงให้เข้าใจตรงกันก่อนข่าวจะคลาดเคลื่อนไปมากกว่านี้ครับผม”
“สุดท้าย ตูมอาจจะย้อนกลับไปแก้สิ่งที่ผิดพลาดไม่ได้ แต่จะรอบคอบในการเดินหน้ากับทุกเรื่องๆ นะครับ ขอบคุณที่สละเวลาอ่านครับ สุขสันต์วันแห่งความรักครับ”