ตั้งอยู่บนถนนยันตรกิจโกศล ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัด 1 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2437 แห่งนี้ มีความงดงามตามแบบศิลปะพุกาม (พม่า) ตามประวัติกล่าวว่า โดยวัดนี้สร้างขึ้นโดยชาวเงี้ยวซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ในพม่าและเดินทางเข้ามาค้าขายที่เมืองแพร่ ครั้นเกิดเหตุการณ์เงี้ยวปล้นเมืองแพร่ วัดแห่งนี้จึงถูกปล่อยร้าง ทรุดโทรม และต่อมาได้รับการบูรณะจากชาวไทยใหญ่ นับเป็นวัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยากที่ใดเทียบได้ ดังนั้น กรมศิลปากรได้จดทะเบียนไว้เป็นสมบัติของชาติเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2533 เพื่ออนุรักษ์โบราณสถานแห่งนี้ให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าที่คนรุ่นหลังจะได้ศึกษาสืบไป ภายในวัดนั้นมีศิลปวัตถุและโบราณวัตถุที่สวยงามและทรงคุณค่ามากมาย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. น่าชม ศาลาการเปรียญและกุฎิที่อยู่ในอาคารเดียวกัน ตัวอาคารสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มีหลังคาเล็กใหญ่ลดหลั่นกันเป็นชั้นรวม 9 ชั้น ฝาผนังแบ่งเป็นตอน ๆ คล้ายข้ออ้อยภายในแสดงให้เห็นฝีมือการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง เสาและเพดานประดับกระจกสีงดงาม มีบันไดขึ้นลงด้านหน้า 2 ข้าง ประดับด้วยทองเหลือง ตีและเจาะให้เป็นลวดลายแบบพม่า ทั้งนี้ เสาไม้ในส่วนของอาคารที่เป็นโบสถ์ลงรักปิดทองนั้น ตกแต่งลวดลายคล้ายสีทองน้ำ มีข้อความเป็นภาษาพม่า จารึกไว้รอบเสาซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 35 ต้น เสาอื่น ๆ อีก 14 ต้นที่ลงรักปิดทองและประดับกระจกสีเช่นกัน เจดีย์มีรูปทรงแบบพม่า ที่มีลักษณะเป็นเจดีย์ใหญ่อยู่ตรงกลางและรายล้อมด้วยเจดีย์เล็กทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 3 องค์ คัมภีร์โบราณที่ทำจากงาช้าง ดอกไม้หิน ปืนคาบศิลา หลวงพ่อสาน พระพุทธรูปที่สร้างโดยใช้ไม้ไผ่สานทั้งองค์แล้วลงรักปิดทอง พระพุทธรูปงาช้าง ศิลปะแบบพม่า คัมภีร์งาช้าง หรือคัมภีร์ปาติโมกข์ โดยนำงาช้างมาบดแล้วอัดเป็นแผ่นบาง ๆ เขียนลงรักแดง จารึกเป็นอักษรพม่าบุษบกลวดลายวิจิตรงดงามประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน Blog ท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ร้านชิค ๆ ในแพร่10 สุดยอดสถาปัตยกรรมอาคารเก่าแก่ในเมืองแพร่วัดเก่าแก่ในเมืองแพร่